วันอาทิตย์, มิถุนายน 05, 2554

สำนวน : ผู้หญิง / girl (3)

 คำว่า ผู้หญิง ที่น่าสนใจอีกคำหนึ่ง คือ คำว่า girl ภาษาอังกฤษยุคกลางสะกดคำว่า gurle หรือ girle แปลว่า คนหนุ่ม-คนสาว ไม่ระบุเพศอย่างในปัจจุบัน นักภาษาศาสตร์บางท่านคะเนว่า ราว ค.ศ. 1375 เป็นต้นมาจึงแปลว่า เด็กหญิง อย่างในปัจจุบัน เช่น

          The eldest girl is getting married. = ลูกสาวคนโตกำลังจะแต่งงาน

          I am a career girl. = ชั้นเป็นคนมีอาชีพ (ไม่สนเรื่องแต่งงานหรอก)

          ฝรั่งนั้นหากพูดว่า girls เป็นพหูพจน์แปลว่า ผู้หญิงอายุเท่าไหร่ก็ได้

          ถ้าพูดว่า girlie magazine แปลว่า นิตยสารรูปโป๊เปลือยของผู้หญิง นอกจากนี้ girl ยังหมายถึง girl-friend แปลว่า แฟน ก็ได้ เช่น

          Praderm will take the girl (-friend) to meet his parents. = ประเดิมจะพาแฟนสาวไปบ้านให้พ่อแม่ดูตัว

          สมัยก่อน เราเคยเรียกเด็กผู้หญิงว่า buxom (บัคเซิม) แปลว่า อวบอัด หรือ หน้าอกใหญ่ โดยทั่วไปแปลว่า อ้วนท้วน

          สมัยนั้น เรียกผู้หญิงว่า buxom and bonny to her husband แปลว่า ซื่อสัตย์ต่อสามี เช่น buxom to the pope แปลว่า เชื่อฟังองค์สันตะปาปา แต่ตอนหลัง buxom แปลว่า สุขภาพดีและแข็งแรง หากพูดว่า a buxom girl หมายถึง ผู้หญิงที่อ้วนท้วนแต่หน้าตาดี เช่น

          Sumitra is a buxom model. = สุมิตราเป็นนางแบบอ้วนแต่สวย

          คำว่าผู้หญิง ทำให้นึกถึงคำว่า chaperon มาจากภาษาฝรั่งเศสจากคำว่า cappe แปลว่า ผ้าคลุมศีรษะสวมทับของทั้งหญิงและชาย ในศตวรรษที่ 17 หมายถึง เสื้อคลุมที่หญิงสวม แต่เป็นการพูดแบบเยาะเย้ยว่า ป้องกันหน้าด้วยผ้าคลุมและผมที่มีผงโรย chaperone ต่อมาเป็นชุดสวมของผู้รับเหรียญ Knight of the Garter ถือว่า เป็นอัศวินยุคเก่าคอยเฝ้าดูแลในวัง คำว่า chaperon เลยหมายถึง คนคอยติดตามกษัตริย์คล้ายๆกับกรมทนายเลือกของไทย ต่อมา chaperon จึงแปลความหมายไปเป็นผู้พิทักษ์ซึ่งเป็นสตรีคอยดูหญิงโสดในที่สาธารณะ สมัยนี้บ้างก็เรียกว่า escort เช่น

          Her brother’s friend escorted her home. = เพื่อนของพี่ชายช่วยดูแลส่งเธอกลับบ้าน

          เขียนถึงผู้หญิงในภาษาอังกฤษแล้วนึกถึงภาษาจีนและญี่ปุ่น ถ้าเขียนอักษรภาพหนึ่งตัวแปลว่า ผู้หญิง ถ้าเขียนอักษรภาพคำว่าผู้หญิงสามตัว แปลว่า นินทา ความจริงการนินทานั้นทั้งฝรั่ง, แขก, ไทย, จีนก็ชอบด้วยกันทั้งนั้น

          ในอังกฤษยุคต้น คำว่า gossip ซึ่งทุกวันนี้แปลว่า นินทา เดิมเขียนว่า godsib แปลว่า แม่หรือพ่อทูนหัว เวลาทำพิธีจุ่มหรือพรมน้ำเพื่อล้างพันธ์ในฐานะพ่อ/แม่ทูนหัวโดยผ่านองค์พระผู้เป็นเจ้า เช่น พระนางเอลิซาเบธเป็นแม่ทูนหัวของพระเจ้าเจมส์ที่ 6 แห่งสกอตแลนด์ ต่อมาคำนี้แปลว่า เพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนร่วมเดินทาง แต่ในงานเขียนของ เชกสเปียร์ แปลว่า นินทา ดังที่เรารู้จักกันทุกวันนี้

          ผู้หญิงอันตรายอีกประเภทหนึ่งฝรั่งเรียกว่า ไซเรนส์ หรือ Sirens ในตำนานกรีก หญิงนี้เป็นสตรีกึ่งนก ชอบนั่งอยู่บนโขดหินแล้วร้องเพลงยั่วกลาสีให้เข้าใกล้แล้วทำลายเรือ แค่คราวที่โอชิซุสเดินทางผ่านได้เอาขี้ผึ้งอุดหู ไซเรนส์เลยทำอะไรไม่ได้ ทุกวันนี้ ไซเรนส์ แปลว่า หญิงร้ายแต่ชอบยั่วยวน เช่น

          Prederm hates that siren. = ประเดิมเกลียดหญิงยั่วยวนแต่ใจร้ายคนนั้น

          ความจริง เรื่องผู้หญิงอาจเป็นเรื่องลี้ลับในสายตาชายและฝ่ายชายมักเป็นฝ่ายเหยียด ส่วนฝ่ายหญิงทุกวันนี้ก็เริ่มต่อสู้ประเด็นนี้แล้ว อย่างไรก็ตาม มีผู้กล่าวขำขันว่า

          “Women and elephants never forget.”


          “อันสตรีและช้างนั้น เมื่อเจ็บแล้วจักต้องจำ”


ขอบคุณที่มา จากหนังสือ "สนุกภาษาฝรั่งกับประเดิม" เขียนโดย คุณนพพร สุวรรณพานิช พิมพ์ปีพ.ศ. 2541

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น