วันอาทิตย์, พฤษภาคม 23, 2553

ประเทศฟินแลนด์ (Finland)



ประเทศฟินแลนด์ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐฟินแลนด์ เป็นประเทศในกลุ่มนอร์ดิก ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปยุโรป เขตแดนด้านตะวันตกเฉียงใต้จรดทะเลบอลติก ทางด้านใต้จรดอ่าวฟินแลนด์ ทางตะวันตกจรดอ่าวบอทเนีย ประเทศฟินแลนด์มีชายแดนติดกับประเทศสวีเดน นอร์เวย์ และรัสเซีย สำหรับหมู่เกาะโอลันด์ที่อยู่ห่างจากชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้นั้น อยู่ภายใต้การปกครองของฟินแลนด์ แต่เป็นเขตปกครองตนเอง เคยถูกรัสเซียยึดครองและเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซีย

ฟินแลนด์มี ประชากรเพียง 5 ล้านคน ในพื้นที่ 338,145 ตารางกิโลเมตร นับว่ามีประชากรที่เบาบาง แต่มีดัชนีการพัฒนามนุษย์ตามสถิติของสหประชาชาติ พ.ศ. 2549 อยู่ในลำดับที่ 11 ฟินแลนด์เคยเป็นส่วนหนึ่งของสวีเดนหลายศตวรรษ หลังจากนั้นก็อยู่ภายใต้จักรวรรดิรัสเซียจนถึงปี พ.ศ. 2460 ปัจจุบันฟินแลนด์เป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตย

ภาษาฟินแลนด์เป็นหนึ่งใน ภาษาราชการไม่กี่ภาษาของสหภาพยุโรป ที่ไม่ได้มีต้นกำเนิดเป็นกลุ่มภาษาอินโด-ยูโรเปียน ร่วมกับภาษาเอสโตเนีย ภาษาฮังการี และภาษามอลตา

เมืองหลวง
กรุงเฮลซิงกิ (Helsinki)

ที่ตั้ง
ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทวีปยุโรป
ทิศ เหนือติดนอร์เวย์
ทิศตะวันตกติดสวีเดน
ทิศตะวันออกติดรัสเซีย
ทิศ ใต้ ติดกับเอสโตเนีย
โดยมีทะเลบอลติกกั้นอยู่

พื้นที่
338,145 ตารางกิโลเมตร

ภูมิประเทศ
ฟินแลนด์ เป็นประเทศที่มีทะเลสาบและเกาะเป็นจำนวนมาก โดยมีทะเลสาบถึง 187,888 แห่ง (ที่มีเนื้อที่มากกว่า 500 ตารางเมตร) และมีเกาะถึง 179,584 เกาะ โดยทะเลสาบไซมา ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในฟินแลนด์ เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับห้าของยุโรป ภูมิประเทศทั่วไปของฟินแลนด์มีลักษณะเป็นที่ราบ ไม่มีภูเขามากนัก จุดสูงสุดของประเทศอยู่ที่ภูเขาฮัลติ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเขตแลปแลนด์ โดยมีความสูง 1,328 เมตร นอกจากทะเลสาบแล้ว พื้นที่ส่วนใหญ่ของฟินแลนด์ปกคลุมด้วยป่าสน และมีพื้นที่เพาะปลูกไม่มากนัก ฟินแลนด์มีเกาะที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ บริเวณหมู่เกาะโอลันด์ และตลอดแนวชายฝั่งทางใต้ในอ่าวฟินแลนด์ ฟินแลนด์เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศของโลกที่ยังคงมีขนาดใหญ่ขึ้น จากการยกตัวของแผ่นดินที่มีผลมาตั้งแต่ยุคน้ำแข็งครั้งสุดท้าย

ภูมิอากาศ
ภูมิอากาศ ทางตอนใต้ของฟินแลนด์เป็นแบบเขตอบอุ่น ทางตอนเหนือ โดยเฉพาะในเขตจังหวัดแลปแลนด์ มีภูมิอากาศแบบป่าสนหรือกึ่งอาร์กติก ซึ่งโดยทั่วไปจะหนาวเย็น มีฤดูหนาวที่รุนแรงในบางครั้ง และมีฤดูร้อนที่ค่อนข้างอบอุ่นโดยเปรียบเทียบ ฟินแลนด์ได้รับอิทธิพลจากกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีมเพราะอยู่ใกล้มหาสมุทร แอตแลนติก ทำให้มีภูมิอากาศที่ค่อนข้างอบอุ่นเมื่อเปรียบเทียบกับละติจูดที่อยู่สูงมาก

เนื้อที่ ราวหนึ่งในสี่ของประเทศฟินแลนด์ตั้งอยู่เหนืออาร์กติกเซอร์เคิล ทำให้เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนได้ ในจุดที่เหนือที่สุดของฟินแลนด์ พระอาทิตย์ไม่ตกดินเป็นเวลา 73 วันในช่วงฤดูร้อน และไม่ขึ้นเลยเป็นเวลา 51 วันในช่วงฤดูหนาว

ประชากร
5.29 ล้านคน

เชื้อชา ติ
Finnish 93.4% Swedish 5.7% Russian 0.4%

ภาษา
ใช้ ภาษาราชการ 2 ภาษา คือ ภาษา Finnish และ ภาษา Swedish

ศาสนา
ส่วน ใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ (นิกาย Lutheran 84.2% นิกาย Orthodox 1%)

สกุลเงิน
ตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2545 ฟินแลนด์ได้เปลี่ยนจากการใช้เงินสกุลฟินมาร์ก หรือ Markka -FIM มาเป็นเงินยูโร(euro)

วันชาติ
6 ธันวาคม

ระบบการเมือง
ระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา (Constitutional Republic)

สหภาพยุโรป
ฟินแลนด์ได้เข้าเป็น สมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2538 และรับหน้าที่เป็นประธานสหภาพยุโรปครั้งแรกระหว่างเดือนกรกฎาคม - ธันวาคม 2542 และครั้งที่ 2 ระหว่างเดือนกรกฎาคม - ธันวาคม 2549 โดยในช่วงเป็นประธานสหภาพยุโรป ฟินแลนด์ได้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเชีย-ยุโรป ระดับผู้นำครั้งที่ 6 (ASEM 6) ที่กรุงเฮลซิงกิ เมื่อวันที่ 10-11 กันยายน 2549

นโยบายต่าง ประเทศของฟินแลนด์
นับตั้งแต่ฟินแลนด์ได้รับเอกราชจนถึง ก่อนสิ้นยุคสงครามเย็น การดำเนินโยบายต่างประเทศของฟินแลนด์จะดำเนินการอยู่บนพื้นฐานของเหตุผลทาง ด้านที่ตั้งและภูมิรัฐศาสตร์(geopolitics) ของประเทศเป็นสำคัญ เนื่องจากฟินแลนด์ตั้งอยู่ระหว่างกลุ่มประเทศยุโรปตะวันตกและรัสเซีย ซึ่งฟินแลนด์มีพรมแดนติดต่อกับรัสเซียเป็นระยะทางยางถึง 1,270 กิโลเมตร (800 ไมล์)สภาวะทางภูมิศาสตร์ดังกล่าวมีผลให้ฟินแลนด์จำเป็นต้องดำเนินนโยบายต่างประเทศเป็นกลางอย่างเคร่งครัด (neutrality) เนื่องจาก ฟินแลนด์เป็นประเทศที่มีขนาดเล็กและมีขีดความสามารถป้องกันตนเองอย่างจำกัด ฟินแลนด์จึงไม่ต้องการเป็นยุทธภูมิของการสู้รบระหว่างฝ่ายตะวันตกกับฝ่ายตะวันออก และไม่ต้องการให้มีการตัดสินปัญหาต่าง ๆ ของโลกโดยวิธีทางการทหารและไม่ประสงค์นำประเทศเข้าไปพัวพันกับความขัดแย้งระหว่างประเทศ ดังนั้น นโยบายความเป็นกลางจึงเป็นแนวทางในการปกป้องเอกราชของฟินแลนด์ในช่วงเวลาดังกล่าว บทบาทของฟินแลนด์ในเวทีการเมืองระหว่างประเทศเริ่มเด่นชัดขึ้นภายหลังการสิ้นสุดยุคสงครามเย็น โดยนโยบายความเป็นกลางของฟินแลนด์ได้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เป็นการปรับนโยบายให้เข้ากับกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลง คือ ส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และระบบเศรษฐกิจเสรี ฟินแลนด์ได้พยายามเสริมสร้างบทบาทของตนเองให้มีความสำคัญมากขึ้นในเวทีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะภูมิภาคยุโรป ซึ่งฟินแลนด์ต้องการมีส่วนร่วมในการกำหนดระเบียบความมั่นคงในรูปแบบใหม่ของยุโรป ที่พยายามรวมตัวกันทั้งทางด้านเศรษฐกิจการเมือง และการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางสังคม เชื้อชาติ และภัยคุกคามต่าง ๆ ร่วมกัน โดยไม่ใช้ความรุนแรงซึ่งเป็นนโยบายที่สอดคล้องกับผลประโยชน์ระยะยาวในด้านความมั่นคงของฟินแลนด์เองที่จะทำให้ภูมิภาคยุโรปไม่กลับคืนไปสู่สภาวะแห่งการแบ่งแยกออกเป็นเขตผลประโยชน์ และเขตอำนาจต่าง ๆ ดังเช่นที่อดีตผ่านมา

ขอขอบคุณที่มา: http://www.holidaythai.com/finland_attractions_guide.htm

แผนการเดินทางครั้งต่อไป (My next trip to Finland)



เริ่มต้นที่เชียงใหม่แล้วบินไปเปลี่ยนเครื่องที่กัวลาลัมเปอร์ จากนั้นบินจากกัวลาลัมเปอร์ไปต่อเครื่องที่แฟรงค์เฟิร์ตและบินต่อไปยัง เฮลซิงกิ ทั้งหมดนี้ใช้เวลาเดินทางขาไป 23.35 ชั่วโมง(หมดเวลาไปหนึ่งวันเลย) และขากลับ 20.10 ชั่วโมง

สถานที่พักช่วง 2-3 วันแรกจะพักที่บ้านของมิกเกะในเมือง Järvenpää ซึ่งห่างจากเมืองหลวงเฮลซิงกิ (Helsinki) ขับรถเพียง 30 นาที ในส่วนจุดหมายและสถานที่ท่องเที่ยวนั้นจะเป็นเมือง Iisalmi ที่อยู่ทางตอนกลางของประเทศเพือเยี่ยมคุณยายของมิกเกะ และคงจะพักอยู่ที่นั่นตลอดทั้งทริปเลย

กิจกรรมที่น่าทำคงเป็นแบบท่องเที่ยวเบาๆ เนื่องจากฟินแลนด์เป็นประเทศที่ร่ำรวยทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะทะเลสาปและ ป่าไม้ ดังนั้นกำหนดการ(ที่ตกลงกันเอง)คงไม่พ้นการพายเรือในทะเลสาป ตกปลา ตั้งแคมป์ ปั่นจักรยานชมเมือง เที่ยวสวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์และชมนิทรรศการต่างๆที่จัดขึ้นในช่วงเวลานั้น อ้อ และที่ขาดไม่ได้คือการซาวน่าสลับกับการว่ายน้ำหรือจุ่มตัวในทะเลสาป เคยลองมาแล้วในทริปก่อน สนุกและสดชื่นมากๆโดยเฉพาะในวันที่อากาศเย็นค่ะ

หนนี้ไปเที่ยวตั้งเดือนคงมีรูปมาฝากเพื่อนๆมากขึ้นจาก Wonderful Trip in Finland โปรดติดตามต่อไปนะคะ

วันเสาร์, พฤษภาคม 22, 2553

ท่องฟินแลนด์เป็นครั้งแรกในชีวิต : My First Trip to Finland


My journey began at Suvarnabhum Airport as the plane took off around 0.10 am local time and arrived at 6 am local time in Finland on the 10th of July 2009. I stayed a few days in Helsinki, where Mikke showed me around the capital city of Finland. Then we drove to the city of Jarvenpaa to visit his mom on Sat. before heading to a summer cottage..

After 2.30 hrs driving, we arrived at the summer cottage which belongs to Mikke's dad and partner. The cottage was very well taken care of and very very quiet... just like a typical Finnish summer cottage. There is a big lake in front of it that creates beautiful scenery. Dad didn't speak much English but I could tell that he is a very kind, sweet and funny man. After spending 2 days in the cottage, we headed back to Jarvenpaa and had lunch with Mikke's mom before driving further to Helsinki.

Thought my journey ended when I checked in at the airport before taking off to BKK, but it was not as easy as that. There had been a misunderstanding about my return ticket which resulting me to stay one more night to catch a new flight. This granted me an opportunity to see more of Finland for one more day and spent more hours with my Finn Butter. When the time came for me to leave, it was really sad to say goodbye, but I promised to myself I had to come back again ! See you next time, Finland !!!