วันพฤหัสบดี, มีนาคม 29, 2555

Minun kotini

Here is one of my Finnish writing tasks (after corrected and revised). My teacher often checks how much we have learned in class by simply hands out a blank paper and gives us a topic to write about, as much as we can within 15 min., but without advance notice. This time the topic is "HOME". 




Minä asun viihtyisässä omakotitalossa. Siellä on olohuone, kolme makuuhuonetta, keittiö, terassi, kylpyhuone, WC ja sauna. 

Olohuoneessa on sohva, keinutuoli, TV, kukkapöytä, pöytä ja monta tuolia. 


Isossa makuuhuoneessa on iso sänky, vanha takka, työpöytä, työtuoli, tietokone, pieni kirjahylly, pieni TV, nojatuoli ja iso vaatehuone. Seinällä on monta valokuvaa. Siellä on myös ovi terassille.


Toisessa makuuhuoneessa on kaksi työpöytää, kaksi tuolia, valkoinen kirjahylly, pieni sänky, yöpöytä ja vaatekaappi. Siellä on myös lelulaatikkoja, koska siellä nukkuu minun poikani. 


Pienessä makuuhuoneessa on pieni vaatekaappi, pieni kirjahylly, työpöytä, työtuoli ja sänky. Työpöydällä on tietokone ja tulostin. Siellä asuu minun anoppini. 


Meidän keittiö on iso ja moderni. Siellä on iso jääkaappi, iso pakastin, pitkä työtaso, hella ja iso ruokapöytä. 


Meidän sauna on pieni, mutta tosi kuuma.


^______^


English Translation:


My house


I live in a cozy house. Inside the house, there are a living room, three bedrooms, kitchen, terrace, shower room, toilet, and sauna.


The living room has a sofa, rocking chair, TV, flower bench, table and many chairs.


In the big bedroom (master bedroom), there are a big bed, old fire place, desk, chair, computer, small book shelf, small TV, armchair, and big walk-in closet. There are many pictures on the walls. There is also a door to the terrace.



In the second room, there are two desks, two chairs, white bookshelf, small bed, bedside table, and wardrobe. There are toy boxes too because my son sleeps there (in this room).

The small bedroom has a small wardrobe, small book shelf, desk, chair, and bed. On the desk, there are a computer and a printer. My mother-in-law stays there.

Our kitchen is big and modern. There are a big fridge, big freezer, long counter, stove, and big dinning table.

Our sauna is small but very hot.

วันเสาร์, มีนาคม 17, 2555

การเดินทางไปเรียนภาษาฟินนิช

หายไปนานเลย ตั้งแต่เริ่มเปิดเรียนก็ไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาอัพเดทบล็อกนี้ ความจริงมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นและประสบการณ์ใหม่ที่น่าสนใจ แต่เพราะการบ้านเยอะและต้องขยันทบทวนบทเรียน จึงไม่มีเวลาเข้ามาเขียนเล่าความคืบหน้าต่างๆ แต่วันนี้พอมีเวลาว่างก็อยากเขียนเล่าซะหน่อย

เริ่มจากการเดินทางไปโรงเรียน ก่อนอื่นขอเปรยก่อนว่าโรงเรียนของเราชื่อ Edupoli ตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟเล็กๆชื่อ Savio ในเมือง Kerava ห่างจากบ้านไป ประมาณ 17 กม. เรียนจันทร์ถึงศุกร์ ตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึงบ่ายสองโมง รถไฟที่เดินทางผ่านระหว่างเมือง Järvenpää และ Kerava มีอยู่สองสายคือ สาย H และสาย R แต่ทั้งสองสายไม่ผ่านสถานี Savio จึงต้องเปลี่ยนรถไฟที่สถานี Kerava เป็นสาย N หรือ K พอจะเขียนแผนภูมิให้เห็นภาพคร่าวๆได้ดังนี้

                         Saunakallio     Järvenpää                       Kerava          Savio
H --------------------I--------------I-------------------------I-----------------------------------
R  -----------------------------------I-------------------------I-----------------------------------
00000000000000000000000000000000I---------------I-------------- K/N
                                                                                

ก่อนเริ่มเรียนก็ได้วางแผนโดยเช็คตารางเวลารถไฟแล้ว โดยรถไฟสาย H จะมาเทียบชานชาลาที่สถานีใกล้บ้านชื่อ Saunakallio ทุกๆชั่วโมง ณ เวลาจุดสามแปดนาที ตัวอย่างเช่น  6.38 น. 7.38 น. 8.38 น. ... เป็นต้น ดังนั้น หากจะเข้าเรียนให้ทัน รถไฟเที่ยวสุดท้ายที่ต้องขึ้นคือ เวลา 8.38 น. จึงวางแผนในตอนเช้าเป็นลำดับว่า ทั้งแม่และลูกตื่นเวลาเจ็ดโมงเช้า ทานมื้อเช้า และเตรียมตัวเดินออกจากบ้านไปส่งลูกที่รร.อนุบาลที่ห่างจากบ้านไป 10-15 นาที จากนั้นจึงมีเวลาเดินไปขึ้นรถไฟเที่ยว 8.38 น. เพื่อให้ถึงโรงเรียน 8.58 น. ปรากฎว่าวันแรกที่ลองทำตามแผน ทำให้เราเข้าเรียนสายสิบนาที(ซะงั้น) เพราะรถไฟดันมาสาย 

[ ปกติรถไฟในฟินแลนด์จะมาตรงเวลาทุกครั้ง แต่หากสภาพภูมิอากาศไม่อำนวย เช่นในฤดูหนาวบ่อยครั้งที่หิมะตกหนาเกาะรางรถไฟ หรืออุณหภูมิต่ำจนทำให้เครื่องยนต์ขัดข้อง ก็ทำให้เกิดความล่าช้าหรือบางเที่ยวต้องหยุดให้บริการชั่วคราว (canceled ) ก็มี ]

พอวันแรกเข้าเรียนสายก็เป็นเรื่องใหญ่เลยสำหรับเรา เพราะอาจารย์ชาวฟินน์เน้นเรื่องความตรงต่อเวลามาก  เราจึงต้องเปลี่ยนแผน ถ้าเลื่อนเวลาขึ้นรถไฟเที่ยว 7.38 น. ก็จะมาถึงโรงเรียนเวลา 7.58 น. (มาถึงก่อนเวลาเข้าเรียนหนึ่งชั่วโมง) ลูกชายก็ต้องพลอยตื่นเช้าและไปถึงโรงเรียนเจ็ดโมงเช้า คิดว่าคงไม่ไหว งั้นคงต้องเปลี่ยนเป็นขึ้นรถไฟสาย R แต่ปัญหาอยู่ที่ มันไม่จอดรับผู้โดยสารที่สถานีเล็กๆอย่าง Saunakallio เราจึงต้องนั่งรถเมล์ไปขึ้นที่สถานีใหญ่ Järvenpää แทน โชคดีที่ป้ายรถเมล์อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนลูกชาย 

ดังนั้นแผนการใหม่ของเราคือตื่นหกโมงครึ่งและเดินไปส่งลูกชายที่โรงเรียนประมาณ 7.30 น.(เพื่อที่ลูกชายจะได้ทันทานมื้อเช้าที่โรงเรียนตอนแปดโมงเช้า) แล้วเดินมารอขึ้นรถเมล์เที่ยว 7.50 น.ไปยังสถานีรถไฟใหญ่ เพื่อให้ทันรถไฟเที่ยว 8.14 น. จากนั้นไปลงสถานีเมือง Kerava และเปลี่ยนรถไฟอีกคันที่จะไปเมือง Savio  จึงทำให้มาถึงก่อนเวลาเข้าเรียนสามสิบนาที แผนนี้ได้ผล เพราะไม่เคยมาสายอีกเลย ส่วนขากลับหลังเลิกเรียนเวลาบ่ายสองนั้นค่อนข้างสะดวกเพราะแค่นั่งรถไฟจาก Savio มา Kerava และเปลี่ยนไปนั่งรถไฟสาย H มาถึง Saunakallio เลย 

ค่าใช้จ่ายในการเดินทางเคยเกริ่นในบทความก่อนหน้านี้แล้วว่าสำนักงานจัดหางานร่วมกับสำนักงานประกันสังคมจ่ายให้จำนวน 9 ยูโรต่อวันไม่หักภาษี ดังนั้นคนที่บ้านใกล้โรงเรียนจึงได้เปรียบเพราะไม่ต้องเสียค่าใช่จ่ายในการเดินทางมากมายเท่ากับคนบ้านไกลอย่างเรา (แถมประหยัดเวลากว่าเราด้วย) เพราะเราต้องจ่ายค่ารถเมล์ และรถไฟทั้งขาไปและกลับ แต่ก็เลือกซื้อตั๋วเดือนที่ถูกกว่าตั๋วเที่ยวเดียวและยังคุ้มค่ากว่าด้วยเพราะเดินทางบ่อย

การเดินทางในประเทศฟินแลนด์ค่อนข้างสะดวกและรวดเร็ว และยังตรงเวลาอีกด้วย การซื้อตั๋วก็แสนสะดวกเพราะนอกจากซื้อที่ช่องขายตั๋วตามสถานีรถไฟแล้ว ยังสามารถซื้อและชำระค่าตั๋วทางอินเตอร์เน็ตและนำ slip code ที่ได้มารับตั๋วที่ช่องขายตั๋ว หรือพริ้นท์เองที่ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ เราเองก็ซื้อตั๋วรถไฟรายเดือนแบบนี้ ระบบนี้เอื้อให้ประชาชนสามารถวางแผนการเดินทางล่วงหน้าและเลือกใช้บริการคมนาคมที่เหมาะสมกับความจำเป็น