วันพุธ, พฤษภาคม 27, 2558

The Happiness Project : ปฏิบัติการสรรค์สร้างความสุข

หลังจากสั่งซื้อและรอเพียงหนึ่งสัปดาห์ เดี๊ยนก็ได้หนังสือ ''The Happiness Project''
เขียนโดย Gretchen Rubin มาครอบครองสมใจ หากถามว่าทำไมต้องขวนขวายหาซื้อในเมื่ออันที่จริงก็หาอ่านได้จากห้องสมุดหรือหยิบยืมจากเพื่อนก็ได้ ก่อนอื่นขอสารภาพก่อนเลยว่าก่อนที่จะเปิดอ่านเดี๊ยนเดาจากปกว่ามันก็คือหนังสือ how to ที่จะบอกเคล็ดลับการเติมความสุขให้ตัวเอง แต่พอได้อ่านคำนำจากผู้เขียนก็พบว่า อันที่จริงมันก็คือ หนังสือที่เล่าประสบการณ์ของเธอเองจากการค้นคว้าหาความหมายของความสุข รวมถึงทฤษฎีและเคล็ดลับการปฏิบัติตัวเพื่อนำมาซึ่งความสุข 
ตัวผู้เขียนเองได้ตั้งคำถามกับตัวเองว่าเธอมีความสุขรึเปล่า อันที่จริงตัวเธอเองก็ค่อนข้างจะมีครอบครัวที่อบอุ่น มีงานที่รักและก็ไม่คิดว่าชีวิตหดหู่หรือไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย แต่ก็ยังคิดว่ามันน่าจะสุขมากขึ้นได้อีก ในหนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนไม่เพียงแค่ลิสต์วิธีปฏิบัติลงไปในหนังสือนะ แต่ตัวเธอเองได้นำมาทดลองปฏิบัติกับตัวเองเป็นเวลาสิบสองเดือน เพื่อพิชิตเป้าหมายความสุขของเธอเอง โดยเธอจะกำหนดหัวข้อที่เธอคิดอยากปรับปรุงตัวเองในด้านต่างๆ เช่น งาน, ความรัก, ครอบครัว, เพื่อน ฯลฯ แต่ละเดือนเธอก็จะยกพฤติกรรมบางอย่างที่เธออยากปรับปรุง แก้ไขเพราะคิดว่าถ้าเปลี่ยนมันได้ เธออาจมีความสุขมากขึ้น 
และนี่คือเหตุผลที่เดี๊ยนคันไม้คันมือ อยากได้มันมาครอบครอง เพื่อซึมซับแรงบันดาลใจจากหนังสือเล่มนี้และนำเคล็ดลับไปปฏิบัติเพื่อปรับปรุงตัวเองบ้าง

***อ่านจบเมื่อไหร่เดี๊ยนจะมาบรรยายความประทับใจพร้อมทั้งข้อคิดที่ได้จากหนังสือเล่มนี้นะฮ้าาา***








วันจันทร์, พฤษภาคม 25, 2558

Fresh haircut ทรงนี้แม่จัดให้

ตั้งแต่สองแม่ลูกย้ายมาอยู่ฟินแลนด์ มีสิ่งหนึ่งที่แม่หัดทำและทำจนชำนาญจนเกิดเป็นความภาคภูมิใจส่วนตัว นั่นก็คือแม่ไม่เคยส่งลูกไปร้านตัดผมเลย เพราะแม่ประหยัดเงินด้วยการตัดผมลูกชายและสามีด้วยตัวเอง 

อุปกรณ์ไม่แพงและหาไม่ยาก ซื้อเพียง kotiparturikone หรือ hiustenleikkuukone ที่มีขายตามท้องตลาด ส่วนสถานที่ก็ใช้ห้องน้ำที่บ้านนั่นล่ะ วางเก้าอี้หนึ่งตัว ใช้ผ้าหรือใยขัดตัวปัดเศษผมออกจากตัว พอตัดเสร็จก็แค่กวาดเศษผมแล้วอาบน้ำสระผมพร้อมกับล้างห้องน้ำไปเลยทีเดียว ประหยัดและสะดวกมากมาย อีกทั้งไม่ต้องจองเวลาที่ร้านตัดผมล่วงหน้า หรือนั่งรอคิวให้เสียเวลา 

ครั้งแรกที่ตัดอาจดูเก้ๆกังๆเพราะผมของแต่ละคนแตกต่างกัน รูปทรงศีรษะก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อความยาก-ง่ายในการตัดผมด้วยเจ้า hiustenleikkuukone นี้ ผมของคุณสามีตัดค่อนข้างง่าย เพราะเป็นผมเส้นเล็กบางและผมไม่หนา ทั้งรูปศีรษะทุยจึงไม่มีปัญหาในการเดินเครื่องรอบๆศรีษะ แต่ลูกชายมีผมค่อนมาทางคนเอเชีย คือผมหนาและเป็นเส้นแข็ง อีกทั้งรูปทรงศีรษะไม่ทุยอย่างทั่วถึง คือด้านหลังจะแบนราบกว่าศีรษะของชาวตะวันตกทั่วไป การเดินเครื่องรอบๆศีรษะจึงยากกว่ากรณีของคุณสามี แม่จึงแก้ปัญหาด้วยการใช้กรรไกรตัดผมให้สั้นลงครึ่งหนึ่งก่อนเดินเครื่องตัดผมรอบๆให้ทั่วถึง
ผลที่ได้ตามรูปเลยค่ะ พ่อลูกทรงเดียวกันเป๊ะ!

ก่อนตัดผม

หลังตัดผม ลูกชายชอบใจมาก ส่วนคุณแม่ภูมิใจไม่เสียตังค์ ฮ่าฮ่า


ทรงนี้ตัดให้คุณสามีมาตลอดสามปี บางครั้งสั้นเกินไปหรือบางทีก็แหว่งบ้าง แต่ฮีไม่เคยบ่นเลย เพราะไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายค่าตัดผมไงล่ะ

และอุปกรณ์ที่ใช้จะหน้าตาประมาณนี้


วันเสาร์, พฤษภาคม 23, 2558

♫ Me ei olla enää me : ไม่มีคำว่า"เรา"อีกต่อไป

ช่วงนี้ได้ฟังเพลงของ SANNI เกือบทุกวันทางวิทยุ เพราะเพลง 2080-luvulla ของนักร้องคนนี้กำลังฮิท แต่เพลงที่ตรงใจเรามากที่สุดกลับเป็นเพลงนี้ เนื้อเพลงมันใช่ เสียงร้องและเมโลดี้ยิ่งกินใจ ทำให้นึกถึงสาวน้อยคนหนึ่งที่มีเหตุต้องเลิกรากับแฟนหนุ่ม แต่เพราะอยู่เมืองเดียวกัน หรืออาจมีเพื่อนกลุ่มเดียวกัน เลยทำให้มีโอกาสพบเจอกันเป็นครั้งคราว แม้จะเลิกรากันแต่ก็ยังมีความผูกพัน ยังมีเยื่อใยที่ทำให้ลืมคนรักไม่ได้ หรือเพราะเลิกกันไม่นานเมื่อสถานะเปลี่ยนไปจึงยังทำใจลำบาก และอาจมีความรู้สึกขื่นขมที่ตอนนี้คนที่เคยรักไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เช่น ไม่เดินกลับพร้อมกัน ไม่เสนอเสื้อให้คลุมกันหนาว หรือแม้เค้าอาจบังเอิญเดินมาส่งที่บ้านก็ไม่เชิญเค้าเข้าบ้านอีกแล้ว 
(จากเนื้อเพลง)  เพราะว่าเมื่อเลิกกันแล้ว คำว่า"เรา"มันก็ไม่มีอีกต่อไปแล้ว เนื้อเพลงบรรยายว่า 
Katselen sua sä näytät samalta : ฉันมองดูเธอ เธอก็ยังดูเหมือนเดิม
Vaikka en tunne enää sinua : แต่ถึงยังงั้นฉันก็ไม่รู้จักเธออีกต่อไปแล้ว
เศร้านะ แต่เวลาจะช่วยทำให้รู้สึกดีขึ้นถ้าไม่ไปสะกิดแผลใหเจ็บซ้ำซ้อน 
เราเชื่อว่าใครหลายคนก็เคยมีประสบการณ์แบบนี้ และก็ผ่านมันมาได้ด้วยดี หรือหากใครที่กำลังรู้สึกแบบนี้อยู่ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ 
***คิดซะว่าถึงไม่มีคำว่า"เรา"แต่คำว่า"ฉัน"ยังอยู่*** 
เวลานี้รักตัวเองให้มากเข้าไว้ แล้วใจจะสงบขึ้นค่ะ
ฝากอ่านบทความ The Missing Piece Meets The Big O
ที่สอนเกี่ยวกับความรักด้วยนะคะ

 



Me ei olla enää me
Sanni

Katselen sua sä näytät samalta
Mutta äänessäs on jotain uutta
Onpa kiva pitkästä aikaa jutella
Vaikka en tunne enää sinua

Koska me ei olla enää me
Ostetaan joululahjat jollekin toiselle
Sä et kuulu enää mulle
Kun lähdet en perääsi enää kävele
Koska me ei olla enää me
Voit saattaa kotiin mut et pääse enää sisälle
Ei haavat niitä repimällä parane
Joten käänny ja kävele
Koska me ei olla enää me

Marraskuun viima vasten puhaltaa
Helsingin kadut tulvii roskaa
Mulla on kylmä ja sen kyllä huomaat
Mutta et tarjoo sun takkia

Koska me ei olla enää me
Ostetaan joululahjat jollekin toiselle
Sä et kuulu enää mulle
Kun lähdet en perääsi enää kävele
Koska me ei olla enää me
Voit saattaa kotiin mut et pääse enää sisälle
Ei haavat niitä repimällä parane
Joten käänny ja kävele
Koska me ei olla enää me

Ei enää me

Katselen sua sä näytät samalta
Vaikka en tunne enää sinua

Koska me ei olla enää me
Ostetaan joululahjat jollekin toiselle
Sä et kuulu enää mulle
Kun lähdet en perääsi enää kävele
Koska me ei olla enää me
Voit saatta kotiin mut et pääse enää sisälle
Ei haavat niitä repimällä parane
Joten käänny ja kävele
Koska me ei olla enää me