วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 26, 2558

อบรมบ่มนิสัย ตอน มือถือของผมหล่นหาย

เมื่อวันก่อนลูกชายอายุสิบขวบกลับบ้านช้ามาก โรงเรียนเลิกตั้งแต่บ่ายโมง และปกติแล้วลูกจะส่งข้อความมาบอกว่าหลังเลิกเรียนจะไปไหน ไปกับเพื่อนคนใด และจะกลับถึงบ้านกี่โมง แต่วันนั้นไม่มีข้อความจากลูกเลย แม่เลิกงานเวลาบ่ายโมงครึ่ง กลับมารอที่บ้าน รอแล้วรอเล่าก็ยังไม่กลับ โทร.หาลูกไม่ติดเพราะคาดว่ามือถือของลูกแบ็ตฯหมด (ตอนเช้าก่อนออกจากบ้านลูกบอกแม่ว่าแบ็ตฯเหลือหนึ่งขีด แต่คิดว่าอาจยังใช้ได้จนถึงเวลากลับบ้าน) แม่กังวลมากเพราะลูกไม่เคยเป็นแบบนี้

เมื่อพ่อเลิกงานกลับถึงบ้านจึงปรึกษากันว่าควรโทร.ถามเพื่อนสนิทของลูกแต่ละคน เผื่อจะมีใครรู้ว่าเค้าไปไหนกับใครหลังเลิกเรียน ได้ความจากเพื่อนคนหนึ่งว่า เห็นลูกอยู่ในบริเวณโรงเรียนกับเพื่อนอีกคน พ่อจึงรีบโทร.เช็คเพื่อนคนนั้น จึงรู้ว่าหลังเลิกเรียนลูกกับเพื่อนคนนี้วางแผนจะไปเล่นเกมส์ที่บ้านของเค้า แต่เนื่องจากเพื่อนปั่นจักรยาน ลูกจึงต้องวิ่งตามให้ทัน ทำให้มือถือหล่นจากกระเป๋ากางเกงโดยไม่รู้ตัว เมื่อถึงบ้านเพื่อนและกำลังจะเขียนข้อความส่งถึงแม่ ลูกจึงรู้ตัวว่าโทรศัพท์หายไป จากนั้นลูกกับเพื่อนจึงพากันเดินหาตามทางที่วิ่งมา แต่ก็หาไม่เจอ และแทนที่จะช่วยกันค้นหาให้ทั่ว หรือกลับบ้านมาบอกแม่ ลูกกลับเดินกลับไปบ้านเพื่อนคนนี้เพื่อเล่นเกมส์ตามที่ตั้งใจในตอนแรก จนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง เค้าเริ่มรู้สึกผิดจึงชวนเพื่อนเดินหามือถืออีกครั้ง แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอจนพลบค่ำ ท้องฟ้ามืดจนแทบมองไม่เห็นอะไร และอากาศก็เย็น สรุปว่าลูกเดินคอตกกลับถึงบ้านตอนหกโมงเย็นเพราะทำมือถือหล่นหายและไม่ใส่ใจหาจนเจอ แต่ไม่กล้ากลับบ้านมาสารภาพกับพ่อแม่

ค่ำวันนั้นพ่อลูกจึงพากันเดินออกไปหารอบๆโรงเรียนอีกครั้งจนดึก แต่ก็ไม่เจอ คืนนั้นลูกจึงต้องรับการอบรมจากพ่อแม่ที่พร่ำสอนลูกเสมอว่าของสำคัญทุกอย่างต้องใช้อย่างทะนุถนอมและถ้าสิ่งใดหายไปต้องรีบค้นหา หรือหากของชำรุดเสียหายต้องรีบซ่อมแซม อย่าปล่อยทิ้งไว้นานจนหาของไม่เจอหรือซ่อมไม่ได้ หากลูกใช้ของอย่างทิ้งขว้าง ไม่ใส่ใจ ต่อไปในอนาคตเค้าจะไม่รู้ค่าของเงิน หรือไม่เห็นคุณค่าหรือพอใจในสิ่งของที่ตัวเองมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่เค้าไม่ได้หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเองนั้น เค้าอาจจะไม่รู้คุณค่า จึงไม่ดูแล ทิ้งขว้างหรือไม่ใส่ใจ แล้วเรียกร้องต้องการซื้อของใหม่ ทำให้สิ่งนั้นกลายเป็นขยะ เป็นของไร้ค่า ไร้ประโยชน์ ซึ่งทำให้เปลืองทรัพยากร เปลืองเงินซ่อมหรือเป็นเหตุให้ต้องซื้อใหม่โดยไม่จำเป็น

เช้าวันต่อมาในห้องเรียนวิชาภาษาฟินนิช นักเรียนทุกคนต้องเขียนบันทึกประจำวัน ลูกชายจึงเขียนบรรยายเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันก่อน เมื่อคุณครูได้อ่านจึงยื่นมือเข้าช่วยด้วยการสอบถามเพื่อนร่วมห้องและครูท่านอื่น จนกระทั่งมีคนรายงานว่าพบโทรศัพท์มือถือของลูกชายหล่นบนทางเท้าใกล้ๆโรงเรียน ครูรีบชาร์ทแบ็ตเตอรี่และนำมาคืนลูกชายก่อนเวลาเลิกเรียน คราวนี้เจ้าลูกชายตัวดีเดินหน้าบานกลับบ้านด้วยความดีใจที่ได้มือถือของตัวเองกลับคืนมา  แม่หวังว่าเค้าได้เรียนรู้บทเรียนที่สำคัญนี้ และจำได้ว่าควรเก็บของอย่างไรไม่ให้เสียหาย และเมื่อหายไปต้องรีบหา รวมถึงใส่ใจ ดูแลทรัพย์สินของตัวเองให้ยังใช้ได้นานๆ
อย่างไรก็ตาม มีสิ่งหนึ่งที่แม่ภูมิใจกับเจ้าลูกชายคนนี้ นั่นก็คือ แม้จะรู้ตัวว่าตัวเองตกที่นั่งลำบากและกลัวที่จะสารภาพผิด แต่เมื่อต้องพูดเค้าก็พูดความจริง รับว่าตัวเองผิด แล้วไม่เคยโกหกพ่อแม่ หรือโกหกผู้ใหญ่เลย ซึ่งแม่หวังว่าคุณธรรมข้อนี้จะติดตัวลูกไปจนโต แล้วสอนลูกสอนหลานให้ทำอย่างเดียวกัน เพราะความซื่อสัตย์คือความดีที่จะช่วยคนดีให้รอดพ้นจากภยันตรายทั้งปวง


ป.ล. ไทเลอร์ได้รับโทรศัพท์โนเกียเครื่องนี้จากพ่อที่ซื้อเมื่อสี่ปีที่แล้ว พ่อใช้อย่างทะนุถนอมแล้วมอบให้ลูกใช้เป็นมือถือเครื่องแรกในชีวิตของเค้า แต่เมื่อไทเลอร์เห็นเพื่อนๆหลายคนใช้มือถือรุ่นใหม่พร้อมอินเตอร์เน็ต ไทเลอร์จึงเรียกร้องอยากได้บ้าง แต่พ่อกับแม่สอนลูกว่าสิ่งที่ลูกจำเป็นต้องมีในตอนนี้คืออุปกรณ์ที่ใช้ติดต่อสื่อสารกับครอบครัวและเพื่อนๆในกรณีจำเป็นต่างๆ เช่น โทร.หรือส่งข้อความถึงแม่หลังเลิกเรียน โทร.ถามการบ้านหรือนัดเพื่อนออกมาเล่นฟุตบอล หรือโทร.ขอความช่วยเหลือในเวลาคับขัน ดังนั้นอินเตอร์เน็ตหรือเครื่องมือที่ใช้ต่ออินเตอร์เน็ตราคาแพงนั้นยังไม่จำเป็นต่อลูกเลยในวัยนี้ และที่สำคัญ เมื่อลูกหัดใช้ของอย่างทะนุถนอมแล้ว มือถือเครื่องนี้อาจจะยังใช้ได้จนถึงเวลาที่ลูกสามารถซื้ออุปกรณ์สื่อสารที่จำเป็นต่อลูกเมื่อโตขึ้น หวังว่าลูกจะเข้าใจพ่อกับแม่นะ

วันอังคาร, พฤศจิกายน 10, 2558

ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับที่อยู่และการมีถิ่นพำนักในฟินแลนด์ ฉบับภาษาไทย

ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับประเทศฟินแลนด์

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการย้ายมาอยู่ฟินแลนด์ ได้จากลิ้งค์ Perustietoa Suomesta -opas แล้ว เลือก ''PDF-opas: ประเทศฟินแลนด์ยินดีตอ้นรับ'' ก็จะสามารถดาวน์โหลดเอกสารฉบับภาษาไทยได้เลยค่ะ





วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 05, 2558

♫ Potentiaali : ทำไมเธอไม่ค้นหาศักยภาพของตัวเองล่ะ

Jukka Poika คือไอดอลของใครหลายคน รวมถึงตัวเดี๊ยนเองด้วย ชอบเพลงของเค้าที่ใช้ภาษาสละสลวย ไม่เปลืองคำแสลง จังหวะเพลงก็ลงตัว โยกตามได้อย่างฟรีสไตล์ ตรงใจสาวก"เร้กเก้" ทั้งไทยและเทศอย่างเดี๊ยนเลยล่ะ อันที่จริงมีหลายเพลงที่ได้รับความนิยมและเปิดซ้ำๆทางวิทยุ แต่มีเพลงนี้ที่มันโดนใจ ความหมายของเพลงมันปลุกใจอย่างบอกไม่ถูก อยากจะลุกขึ้นมาทำอะไรใหม่ๆ อยากค้นหาตัวเอง ยิ่งเปิดฟังทุกวันยิ่งมีกำลังใจ ผลักดันตัวเองให้เดินตามจุดหมายเอื้อมมือ ไขว่คว้า เดินตามความฝัน

อยากบอกว่าเพลงนี้แหละที่เตือนตัวเองให้นึกถึงความสามารถและศักยภาพของตัวเองแล้วทำให้กล้าที่จะ break away จาก comfort zone ดั่งผีเสื้อที่ออกจากดักแด้เพื่อกางปีกโบยบินตามใจฝัน เช่นนั้นเลย ดังนั้นเดี๊ยนก็เลยตัดสินใจสอบวัดความสามารถทางภาษาอีกครั้ง เพื่อนำคะแนนไปสมัครเรียนต่อปริญญาโทด้านที่เดี๊ยนจบมา แม้จะผิดหวังมาก่อนจากผลสอบปีที่แล้วที่ได้น้อยกว่าเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด แต่จะไม่ท้อถอยฮ่ะ คราวนี้เดี๊ยนตั้งใจแน่วแน่และวางแผนเตรียมสอบอย่างมาดมั่น เชื่อว่าคราวนี้ผลสอบจะต้องดีกว่าเดิมแน่นอน ส่วนผลการสมัครเรียนป.โทนั้นก็ขึ้นอยู่กับเอกสารแสดงผลการเรียนป.ตรี พูดง่ายๆก็คือขึ้นอยู่กับกรรมเก่าของเดี๊ยนเอง แต่ผลจะออกมายังไงเดี๊ยนก็จะยอมรับค่ะ อย่างน้อยได้พยายาม ได้ลองแล้ว แม้จะไม่ได้รับคัดเลือกให้เรียนต่อเดี๊ยนคงจะมองหาศักยภาพอื่นๆของตัวเองต่อไปค่ะ


”Omaan mukavuuteen on helppo tuudittuu

Silloinkin kun pitäis kasvaa ja uudistuu” 

มันง่ายที่เราจะเก็บตัวอยู่ในมุมที่เราอุ่นใจ

แม้ยามที่เราควรเติบโตและฟื้นคืนพลังให้กับตัวเองอีกครั้ง

”Jos sä vaalit sun pelkoo
Niin kuin farmari peltoo
Ja varot astumasta sinne missä se versoo
Elät puoliteholla
Sen se susta kertoo
Mikset ottais omast potentiaalistas selkoo”

ถ้าเธอเลือกที่จะโอบอุ้มความกลัวของตัวเอง

เหมือนอย่างชาวนาทะนุถนอมผืนนาของเค้า
กลัวที่จะเดินย่ำบนที่นาของตน
ในบริเวณที่ผลิดอกออกผล
เธอกำลังใช้ชีวิตแบบครึ่งๆกลางๆ
นี่หรือคือสิ่งที่เธอเป็นอยู่
แล้วไยเธอไม่ค้นหาศักยภาพของตัวเอง



Finnish

Potentiaali

Kun virta vie sua mukanaan kaikkeuteen
Takerrut kirjaan, takerrut kaiteeseen
Jos sä vaalit sun pelkoo
Niin kuin farmari peltoo
Ja varot astumasta sinne
missä se versoo
Elät puoliteholla
Sen se susta kertoo
Mikset ottais omast potentiaalistas selkoo
Jos sä haudot itsesääliä
suurina määrinä
Niin et sä oot uhri
Ja maailma on väärässä
Elät vajareilla
Sen se susta kertoo
Mikset ottais omast potentiaalistas selkoo
Omaan mukavuuteen on helppo tuudittuu
Silloinkin kun pitäis kasvaa ja uudistuu
Kelaat samaa luuppii kunnes se jumittuu
Jumittuu, jumittuu
Kaikki seisovat aallot, jähmeät patsaat
Joita puolustat
Niihin voimasi satsaat
Ne on niin rakkaat
Pikku harhakuvat
Kun virta vie sua mukanaan kaikkeuteen
Takerrut kirjaan, takerrut kaiteeseen
Ja vaalit sun pelkoo
Niin kuin farmari peltoo
Ja varot astumasta sinne
missä se versoo
Elät puoliteholla
Sen se susta kertoo
Mikset ottais omast potentiaalistas selkoo
Jos sä haudot itsesääliä
suurina määrinä
Niin et sä oot uhri
Ja maailma on väärässä
Elät vajareilla
Sen se susta kertoo
Mikset ottais omast potentiaalistas selkoo
Reunan yli nojaten
Tyhjyyttä halaten
Rakkautta tuhlaten
Sydäntäsi avaten
Vitutusta uhmaten
Karsinasta karaten
Seuraava leveli on just sua varten
Sun mieles aavikol
on jossain puutarha
Mis kaikki on mahdollista
Eikä mikään oo varmaa
Ja vaiks sä kynnät mielelläs
Sun pitkää suoraa sarkaa
Niin koita välil vierailla viidakos
Ja jos se on sulle tuntematon alue
Niin ilmankos
Sä vaalit sun pelkoo
Niin kuin farmari peltoo
Ja varot astumasta sinne
missä se versoo
Elät puoliteholla
Sen se susta kertoo
Mikset ottais omast potentiaalistas selkoo
Jos sä haudot itsesääliä
suurina määrinä
Niin et sä oot uhri
Ja maailma on väärässä
Elät vajareilla
Sen se susta kertoo
Mikset ottais omast potentiaalistas selkoo
Takerrut kirjaan, takerrut kaiteeseen
Kun virta vie sua mukanaan kaikkeuteen
English translation

Potential

When the stream takes you with it to the Universe
You cling to a book, you cling to a rail
If you cherish your fear
As a farmer cherishes his field
And beware of stepping
where it [the field] is flowering
You are living on half-power
That is what it says about you
Why wouldn't you figure out your potential
If you wallow in self pity
in great quantities
Then you are not the victim
And then the World has it all wrong
You are not living to the fullest
That is what it says about you
Why wouldn't you figure out your potential
It is easy to stay in the comfort zone
Even when you should be growing and renewing yourself
You are playing the same loop until it jams
jams, jams
All standing waves, rigid statues
that you are defending
For which you are using your energies
Are so important to you
Little illusions
When the stream takes you with it to the Universe
You cling to a book, you cling to a rail
And you cherish your fear
As a farmer cherishes his field
And beware of stepping
where it [the field] is flowering
You are living on half-power
That is what it says about you
Why wouldn't you figure out your potential
If you wallow in self pity
in great quantities
Then you are not the victim
And then the World has it all wrong
You are not living to the fullest
That is what it says about you
Why wouldn't you figure out your potential
Stretching over the edge
Embracing the nothingness
Wasting your love
Opening your heart
Defying "being pissed off" [1]
Escaping from pig pen
The next level is exactly meant for you
On the desert of your mind,
there is a garden somewhere
Where everything is possible
And nothing is certain
And even though you plow with pleasure
The long field strip [of your mind]
Try to visit the jungle occasionally
And if it is terra incognita for you
I do not wonder why
You cherish your fear
As a farmer cherishes his field
And beware of stepping
where it [the field] is flowering
You are living on half-power
That is what it says about you
Why wouldn't you figure out your potential
If you wallow in self pity
in great quantities
Then you are not the victim
And then the World has it all wrong
You are not living to the fullest
That is what it says about you
Why wouldn't you figure out your potential
You cling to a book, you cling to a rail
When the stream is taking you to the Universe

วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 01, 2558

Holidaying in Tallinn, Estonia 11.-13.10.2015

เมืองทาลลินน์ ประเทศเอสโตเนีย คือเพื่อนบ้านที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของฟินแลนด์ โดยมีอ่าวฟินแลนด์คั่นกลาง พวกเราเดินทางโดยเรือจากท่าเรือเมืองเฮลซิงกิของฟินแลนด์มาถึงท่าเรือเมืองทาลลินน์โดยใช้เวลาเพียงสองชั่วโมง เรามีโอกาสเดินชมเมืองเก่า (Medieval Old Town)ที่ยังคงไว้ซึ่งสถาปัตยกรรมที่คล้ายคลึงกับประเทศรัสเซีย เนื่องจากในอดีตเคยถูกยึดครองโดยสหภาพโซเวียตนั่นเอง 
อาคารบ้านเรือนก็ดูน่ารัก ถนนหนทางก็คึกคัก เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะคนฟินน์นั้นนิยมเดินทางมาพักตากอากาศที่นี่เพราะเดินทางสะดวก อีกทั้งค่าที่พักไม่สูงมากนัก ประจวบกับวันที่เราเดินทางนั้นเป็นช่วงวันหยุดฤดูใบไม้ผลิ (Syysloma) โรงเรียนหยุดหนึ่งอาทิตย์ ครอบครัวชาวฟินน์จึงพาเด็กๆมาพักผ่อนที่เมืองนี้กันอย่างคับคั่ง

นอกจากเมืองเก่าแล้ว พวกเรายังสนใจเดินชมมุมอื่นๆของเมืองด้วย ทั้งซากเก่าแก่ที่ยังคงทิ้งตราประทับของสหภาพโซเวียตที่เคยครอบครองดินแดนแห่งนี้ในอดีต แหล่งช้อปปิ้งกลางเมือง รวมถึงหนึ่งในร้านอาหารที่หนุ่มสาวชาวทาลลินน์นิยมแฮงค์เอ้าท์หลังเลิกงาน ก่อนโบกมือลา เราก็ไม่ลืมเติมพลังด้วยอาหารรสชาติภารตะ และยังแวะร้าน"ชาดู"เพื่อซื้อชาเป็นของฝากก่อนนั่งเรือกลับบ้าน (แนะนำเลยนะ สำหรับร้านนี้ ชาเต็มร้านจากเกือบทุกมุมโลก แล้วเจ้าของร้านรู้ลึกรู้จริง คอชาไม่ควรพลาดค่ะ)
สรุป เที่ยวนี้ใช้เวลาสองวันสองคืน ประทับใจมากและจะกลับมาเยือนอีกอย่างแน่นอน