This year we celebrated Christmas at Pirjo's. Liisa-mummo and Anneli came from Iisalmi, and they arrived together with Ilkka just in time for Christmas dinner. After dinner we had sauna with our full bellies. Then followed by a coffee break before Santa Claus came knocking at our front door and disappeared just in time when we opened it. As we had been longing for, he left a big sack of delightful presents for each of us and that brought a cheerful smile on our faces. And it was the moment the little girl in a woman's body remembers most about Christmas. Merry Christmas Everyone!
วันอังคาร, ธันวาคม 24, 2556
วันเสาร์, พฤศจิกายน 30, 2556
Itse tehty kranssi ja pikkujoulu : พวงหรีดคริสต์มาสทำเอง
Tässä näin... mun ensimmäinen kranssi. Tein sen Kukkatalon kranssin teko-kurssilla. Olipa kiinnostavaa nähdä personallisia kransseja, ja pitää hauskaa pikkujoulua työkavereiden kanssa.
มีโอกาสไปเข้าคลาสทำพวงหรีดคริสต์มาส(ภาษาฟินนิชเรียกว่า Joulukranssi โยวลุ-กร้านซซิ ที่นิยมนำไปห้อยไว้หน้าประตูบ้านโดยเฉพาะช่วงเทศกาลคริสต์มาส) กับเพื่อนร่วมงาน พอทำเสร็จก็กินเลี้ยงฉลองเทศกาลคริสต์มาสล่วงหน้า(pikkujoulu ปิ๊กกุโยวลุ)ด้วยกันซะเลย ผลงานของทุกคนออกมาสวยเชียว แต่ที่น่าสนใจคืองานฝีมือจะแสดงเอกลักษณ์ของคนทำ รายละเอียดของสิ่งที่นำมาตกแต่งบอกลักษณะนิสัยของคนๆนั้นได้เยอะทีเดียว เราเองทำเป็นครั้งแรกก็ออกมาหน้าตาเอเชียนิดหนึ่ง เพราะเสียบพริกกับกระเทียมเข้าไปด้วย เสียดายไม่มีขิง ข่า ตะไคร้ ให้เลือกตกแต่ง ไม่งั้นก็คงออกมาเป็นต้มยำกุ้งของไทยนี่เอง ฮ่าฮ่าฮ่า
วันพุธ, พฤศจิกายน 20, 2556
ตัดแว่นสายตา ไม่ยาก และไม่แพงอย่างที่คิด (ตอนที่ 2)
อ่านความเดิมตอนที่แล้ว
และเมื่อได้ใบบันทึกค่าวัดระดับสายตา (silmälasiresepti)มาครอบครองแล้ว แผนต่อไปของสามีจอมตืดคือหาร้านที่ตัดแว่นที่ได้ราคาเหมาะสมที่สุด และแล้วฮีก็กูเกิ้ลจนพบร้านตัดแว่นที่ให้บริการสะดวก รวดเร็ว และง่ายดาย โดยไม่ต้องเจอกับพนักงานคอยเซ้าซี้ แล้วยังประหยัดค่าเดินทางอีกต่างหาก ร้านที่ว่านี้คือ ร้านตัดแว่นตาออนไลน์ favoptic วิธีใช้บริการก็แสนง่าย เกือบทุกขั้นตอนทำได้จากบ้านด้วยอินเตอร์เน็ตนั่นล่ะ
เพียงคลิ๊กเข้าไปในเว็บไซต์ www.favoptic.fi และสมัครใช้บริการโดยกำหนดชื่อ log in หรือใช้เป็นอีเมล์แอ็ดเดรส และพาสเวิร์ดส่วนตัว จากนั้นก็คลิ๊กเลือกโครงและกรอบแว่นตาที่ชอบมาห้าคู่ ขั้นตอนนี้อาจใช้โปรแกรมช่วยเลือกโดยการอัพโหลดรูปถ่ายหน้าตรงของตัวเอง พร้อมระบุความกว้างระหว่างจุดโฟกัสของลูกตาทั้งสองข้าง แล้วคลิกแสดงผลรูปเสมือนสวมแว่นตานั้นถ่ายรูป จากประสบการณ์ตรงโปรแกรมนี้ช่วยได้มากเลย เพราะโครงแว่นมีให้เลือกเยอะมาก ทั้งแบบโครงโลหะ โครงพลาสติก หรือกระทั่งแบบไร้กรอบ มีหลายสี หลายลาย โครงบางสไตลก็สามารถออกแบบเองไม่ให้ซ้ำใครเลยก็มี ซึ่งบางคนแม้จะคุ้นเคยกับการสวมแว่นตามานาน ก็อาจมีอาการเหวอเลือกไม่ถูกขึ้นมาก็ได้ นอกจากนี้การที่ไม่สามารถหยิบสินค้ามาลองได้จริง จึงอาจทำให้ขาดความมั่นใจในการเลือกสินค้าที่เหมาะกับตัวเองได้ รูปเสมือนสวมใส่แว่นตานี้ช่วยตัดตัวเลือกที่ไม่เหมาะกับเราออกไป ให้เหลือเพียงห้าอับดับที่เราต้องการลองสวมจริงๆ ที่บอกว่าลองสวมจริงนี้หมายความว่า เมื่อเราเลือกแว่นตาที่ต้องการมาห้าคู่แล้ว ทางร้านก็จะส่งโครงแว่นตาตัวอย่างทั้งห้าคู่(ไม่ใช่เลนส์จริง)มาตามที่อยู่ของเรา
ขั้นตอนต่อไปที่ต้องทำคือ ลองสวมจริงและตัดสินใจว่าคู่ไหนเหมาะกับเรามากที่สุด หรือคู่ไหนถูกใจที่สุด หากถูกใจก็จัดแจงกาเครื่องหมายเลือกผู้แทน อ่อ ไม่ช่ายยยย ที่ถูกต้องคือใช้ปากกาเมจิกที่ส่งมาพร้อมแว่นตาตัวอย่าง ทำเครื่องหมายบนแว่นตาเพื่อกำหนดจุดกึ่งกลางของตาดำทั้งสองข้าง แล้วใส่แว่นตาที่เลือกคู่นั้นกลับเข้าไปในซอง แพ็คใส่กล่องเดิมให้ครบทุกคู่ พร้อมแนบก๊อปปี้ใบบันทึกค่าวัดระดับสายตา (silmälasiresepti)ของเราส่งให้เค้าประกอบเลนส์สายตาให้เราใส่เข้าไปด้วย นำกล่องที่แปะสติ๊กเกอร์ติดที่อยู่ที่แนบมาให้ส่งกลับไปยังบริษัททางไปรษณีย์(ค่าส่งฟรีเนื่องจากเป็นพัสดุที่ชำระอาการไปรษณีย์แล้ว) แต่หากยังไม่พอใจแว่นตาตัวอย่างคู่ใดเลยก็สามารถส่งกลับไปด้วยวิธีเดียวกันแต่ไม่ต้องกาเครื่องหมายใดๆบนแว่นตา แล้วกลับไปเลือกแว่นตาแบบอื่นจากเว็บไซต์มาลองอีก จนกว่าจะพบคู่ที่ถูกใจ เป็นอันเสร็จขั้นตอนการลองแว่นตา จากนั้นทำการ log in เข้าไปยังเว็บไซต์เดิม แล้วเลือกแว่นตาคู่ที่เราเลือกใส่ในตระกร้า เช็คเอาท์ เพื่อทำการซื้อแว่นตาออนไลน์ อย่าลืมบันทึกหมายเหตุให้ทางร้านทราบว่า เราได้แนบใบบันทึกค่าวัดระดับสายตาของเราไปพร้อมกับกล่องที่ได้นำส่งกลับไปที่ร้านแล้ว
หลังจากนั้นประมาณสองอาทิตย์ถัดมา ปิ๊งป่อง! และแล้วแว่นตาเม้ดทูออเดอร์ของเราก็เดินทางมาถึงบ้าน พร้อมกล่องใส่แว่นตาทำจากโลหะ เครื่องมือไขปรับน๊อตขนาดจิ๋ว และที่ขาดไม่ได้คือบิลค่าแว่นตาประกอบเลนส์จำนวน 45 ยูโร
ข้อดีของแว่นตาคู่ใหม่คือช่วยทำให้ทัศนียภาพของเราแจ่มขึ้นมาทันตา เห็นโลกชัดขึ้นมาในทันใด แต่ข้อเสียที่ตามมาหลังจากที่เคยหลอกตัวเองว่าหน้าใส ตอนนี้กลับมองเห็นสิวผด ริ้วรอยระดับปานกลางรวมทั้งรูขุมขนซูมอินชัดขึ้นล้านเท่าจนไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง(จริงง่ะ?) นอกจากนี้ยังมีอาการปวดหัว ซึ่งเป็นอาการข้างเคียงทั่วไปเนื่องจากสายตายังไม่ชินกับเลนส์สายตาคู่ใหม่ คงต้องใช้เวลาปรับสายตาอีกพักหนึ่ง สรุปแล้วค่าใช้จ่ายทั้งหมดคือ 73 ยูโรได้แก่ค่าวัดสายตา 28 ยูโรและค่าแว่นตาประกอบเลนส์ 45 ยูโร ไม่แพงอย่างที่เคยคิดไว้แถมสะดวกมากมาย และที่สำคัญมองเห็นชัดร้อยเปอร์เซ็นต์ เสมือนได้ตาคู่ใหม่มาใส่แทนคู่เก่ายังไงอย่างงั้นเลยเชียว
เพื่อนๆที่อยู่ในฟินแลนด์คนไหนมีความจำเป็นต้องตัดแว่นก็ลองหาข้อมูลดูจากหลายๆร้าน หรือหากต้องการคำแนะนำก็สามารถติดต่อเราได้ ยินดีช่วยเหลือจ้าาาา
และเมื่อได้ใบบันทึกค่าวัดระดับสายตา (silmälasiresepti)มาครอบครองแล้ว แผนต่อไปของสามีจอมตืดคือหาร้านที่ตัดแว่นที่ได้ราคาเหมาะสมที่สุด และแล้วฮีก็กูเกิ้ลจนพบร้านตัดแว่นที่ให้บริการสะดวก รวดเร็ว และง่ายดาย โดยไม่ต้องเจอกับพนักงานคอยเซ้าซี้ แล้วยังประหยัดค่าเดินทางอีกต่างหาก ร้านที่ว่านี้คือ ร้านตัดแว่นตาออนไลน์ favoptic วิธีใช้บริการก็แสนง่าย เกือบทุกขั้นตอนทำได้จากบ้านด้วยอินเตอร์เน็ตนั่นล่ะ
เพียงคลิ๊กเข้าไปในเว็บไซต์ www.favoptic.fi และสมัครใช้บริการโดยกำหนดชื่อ log in หรือใช้เป็นอีเมล์แอ็ดเดรส และพาสเวิร์ดส่วนตัว จากนั้นก็คลิ๊กเลือกโครงและกรอบแว่นตาที่ชอบมาห้าคู่ ขั้นตอนนี้อาจใช้โปรแกรมช่วยเลือกโดยการอัพโหลดรูปถ่ายหน้าตรงของตัวเอง พร้อมระบุความกว้างระหว่างจุดโฟกัสของลูกตาทั้งสองข้าง แล้วคลิกแสดงผลรูปเสมือนสวมแว่นตานั้นถ่ายรูป จากประสบการณ์ตรงโปรแกรมนี้ช่วยได้มากเลย เพราะโครงแว่นมีให้เลือกเยอะมาก ทั้งแบบโครงโลหะ โครงพลาสติก หรือกระทั่งแบบไร้กรอบ มีหลายสี หลายลาย โครงบางสไตลก็สามารถออกแบบเองไม่ให้ซ้ำใครเลยก็มี ซึ่งบางคนแม้จะคุ้นเคยกับการสวมแว่นตามานาน ก็อาจมีอาการเหวอเลือกไม่ถูกขึ้นมาก็ได้ นอกจากนี้การที่ไม่สามารถหยิบสินค้ามาลองได้จริง จึงอาจทำให้ขาดความมั่นใจในการเลือกสินค้าที่เหมาะกับตัวเองได้ รูปเสมือนสวมใส่แว่นตานี้ช่วยตัดตัวเลือกที่ไม่เหมาะกับเราออกไป ให้เหลือเพียงห้าอับดับที่เราต้องการลองสวมจริงๆ ที่บอกว่าลองสวมจริงนี้หมายความว่า เมื่อเราเลือกแว่นตาที่ต้องการมาห้าคู่แล้ว ทางร้านก็จะส่งโครงแว่นตาตัวอย่างทั้งห้าคู่(ไม่ใช่เลนส์จริง)มาตามที่อยู่ของเรา
ขั้นตอนต่อไปที่ต้องทำคือ ลองสวมจริงและตัดสินใจว่าคู่ไหนเหมาะกับเรามากที่สุด หรือคู่ไหนถูกใจที่สุด หากถูกใจก็จัดแจงกาเครื่องหมายเลือกผู้แทน อ่อ ไม่ช่ายยยย ที่ถูกต้องคือใช้ปากกาเมจิกที่ส่งมาพร้อมแว่นตาตัวอย่าง ทำเครื่องหมายบนแว่นตาเพื่อกำหนดจุดกึ่งกลางของตาดำทั้งสองข้าง แล้วใส่แว่นตาที่เลือกคู่นั้นกลับเข้าไปในซอง แพ็คใส่กล่องเดิมให้ครบทุกคู่ พร้อมแนบก๊อปปี้ใบบันทึกค่าวัดระดับสายตา (silmälasiresepti)ของเราส่งให้เค้าประกอบเลนส์สายตาให้เราใส่เข้าไปด้วย นำกล่องที่แปะสติ๊กเกอร์ติดที่อยู่ที่แนบมาให้ส่งกลับไปยังบริษัททางไปรษณีย์(ค่าส่งฟรีเนื่องจากเป็นพัสดุที่ชำระอาการไปรษณีย์แล้ว) แต่หากยังไม่พอใจแว่นตาตัวอย่างคู่ใดเลยก็สามารถส่งกลับไปด้วยวิธีเดียวกันแต่ไม่ต้องกาเครื่องหมายใดๆบนแว่นตา แล้วกลับไปเลือกแว่นตาแบบอื่นจากเว็บไซต์มาลองอีก จนกว่าจะพบคู่ที่ถูกใจ เป็นอันเสร็จขั้นตอนการลองแว่นตา จากนั้นทำการ log in เข้าไปยังเว็บไซต์เดิม แล้วเลือกแว่นตาคู่ที่เราเลือกใส่ในตระกร้า เช็คเอาท์ เพื่อทำการซื้อแว่นตาออนไลน์ อย่าลืมบันทึกหมายเหตุให้ทางร้านทราบว่า เราได้แนบใบบันทึกค่าวัดระดับสายตาของเราไปพร้อมกับกล่องที่ได้นำส่งกลับไปที่ร้านแล้ว
หลังจากนั้นประมาณสองอาทิตย์ถัดมา ปิ๊งป่อง! และแล้วแว่นตาเม้ดทูออเดอร์ของเราก็เดินทางมาถึงบ้าน พร้อมกล่องใส่แว่นตาทำจากโลหะ เครื่องมือไขปรับน๊อตขนาดจิ๋ว และที่ขาดไม่ได้คือบิลค่าแว่นตาประกอบเลนส์จำนวน 45 ยูโร
เพื่อนๆที่อยู่ในฟินแลนด์คนไหนมีความจำเป็นต้องตัดแว่นก็ลองหาข้อมูลดูจากหลายๆร้าน หรือหากต้องการคำแนะนำก็สามารถติดต่อเราได้ ยินดีช่วยเหลือจ้าาาา
วันศุกร์, พฤศจิกายน 15, 2556
ตัดแว่นสายตา ไม่ยาก และไม่แพงอย่างที่คิด (ตอนที่ 1)
วันนี้อยากบอกเล่าเก้าสิบเกี่ยวกับประสบการณ์ตัดแว่นสายตาในต่างแดน ก่อนอื่นขอเท้าความเป็นมาก่อน เรื่องของเรื่องคือ ตัวเองมีปัญหาสายตาสั้น มองไกลไม่ชัดมาเป็นเวลานานมากแล้ว จำได้ว่าเริ่มสวมแว่นตาตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย สวมแว่นตลอดเวลาจนได้ฉายาที่เพื่อนๆเรียกว่า อาราเร่ หรือ เรียกป้าบ้างล่ะ แต่ช่วงปีหลังๆมานี้บางครั้งหากไม่จำเป็นก็จะไม่สวมแว่นตาเนื่องจากรู้สึกเกะกะ จะสวมเฉพาะตอนที่นั่งเรียน/ประชุม/อบรม/สัมมนา ขับรถ ดูทีวีหรือภาพยนตร์ในโรงหนัง หรือต้องมองฉากที่อยู่ไกลๆเป็นต้น นี่จึงเป็นสาเหตุให้ลืมพกแว่นตาติดตัวอยู่หลายครั้ง และครั้งล่าสุดดันลืมแพ็คใส่กระเป๋าเมื่อต้องย้ายมาอยู่ต่างแดน ซะงั้น!
ในช่วงแรกจึงพยายามไม่หาเหตุจำเป็นที่จะต้องสวมแว่นตา คือไม่ต้องขับรถ(ยังไม่มีใบอนุญาตขับขี่ของที่นี่) ไม่ดูภาพยนตร์ในโรงหนัง(ค่าตั๋วแพง) และหามุมนั่งใกล้จอทีวีให้มากที่สุด แต่จนแล้วจนเล่าก็จำเป็นต้องหาแว่นตามาสวมเมื่อต้องเข้าชั้นเรียนภาษา และดันโชคร้ายโดนจัดให้นั่งห่างกระดานซะสุดแถวววว ทำไงดีล่ะทีนี้ รู้มา(จากแม่สามี)ว่าค่าตัดแว่น ค่าเลนส์และโครงแว่นตาน่ะ ราคาหลายร้อยยูโรเชียวนะ เราเองไม่อยากใช้จ่ายเงินมากขนาดนั้นก็เลยลองหาทางเลือกอื่นดูก่อน วันหนึ่งเดินเลือกซื้อของในร้านขายของมือสอง เจอแว่นสายตาเก่าอยู่คู่หนึ่งราคาไม่ถึงสามยูโร ลองใส่ดูแม้จะไม่ใช่ระดับสายตาที่เหมาะกับเราแต่ก็มองเห็นชัดขึ้นมาก จึงไม่รอช้า สอยมาทันที ใช้อยู่พักใหญ่แต่เพราะโครงแว่นอ่อนแอ จึงหักง่าย ป๊อก! เป็นอันจบสิ้นกัน ขอไว้อาลัยแด่แว่นตามือสองคู่แรกในชีวิตของเรา เฮ้อ...
ช่วงระหว่างที่กำลังตระเวนหาแว่นตา(มือสอง)คู่ต่อไปนั้น เป็นช่วงที่ลำบากที่สุดถึงขนาดต้องขอยืมแว่นตาของพี่สาวใจดีที่นั่งเรียนติดกันมาสวมเพื่อมองดูกระดาน เปลี่ยนกันสวมทุกสิบนาทีเลย มึนหัวอยู่ทุกวัน จนมาเจอกับแว่นตาคู่ใหม่จากร้านเดิม และราคาพอๆกับคู่เก่าแต่มองเห็นชัดกว่าเดิมอีกหนึ่งเท่า จากนั้นมาจึงใช้แบบทะนุถนอมนานข้ามปี จนเรียนจบคลาส แต่ก็นะ เพราะยังไม่ใช่แว่นตาที่ทำมาเพื่อสายตาของเรา การมองเห็นจึงไม่ชัดถึงหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์และที่สำคัญเวลาที่ไม่สวม เริ่มสังเกตว่าระดับการมองเห็นด้วยตาเปล่าแย่กว่าสองปีที่แล้วซะอีก ในที่สุดหลังจากพลัดพลากจากแว่นตาเม็ดอินไทแลนด์ของเรามาเป็นเวลาสองปี ตอนนี้เรามีงานทำ มีรายได้ประจำ จึงสมควรแก่เวลาที่จะวัดสายตาอีกครั้งและตัดแว่นใหม่เสียที และที่จะเล่าต่อไปนี้คือประสบกาณ์ตัดแว่นสายตาในต่างแดน ที่อันที่จริงไม่ยาก และไม่แพงอย่างที่คิด
ในประเทศฟินแลนด์ "จักษุแพทย์" หรือ silmälääkäri มีหน้าที่รักษาโรคทางตาเท่านั้น ดังนั้นหน้าที่"วัดระดับการมองเห็น" (näöntarkastus) {ขอเรียนสั้นๆว่าวัดสายตา}จึงเป็นของ"ช่างวัดสายตา" หรือ optikko โดยทั่วไปสามารถติดต่อเพื่อวัดสายตาได้ตามร้านขายแว่นตาทั่วไป เช่น Silmäasema, Specsavers, Fenno Optiikka, Instrumentarium เป็นต้น แต่ละร้านก็จะระบุค่าบริการต่างกันไป หากมีอัตราแข่งขันสูงก็อาจมีส่วนลดตามโปรโมชั่น ค่าตรวจวัดสายตาและค่าตัดแว่นจะแยกกัน และหากมีใบส่งตัวจากบุคลากรทางการแพทย์ เช่นหมอ หรือพยาบาล อาทิเช่นผู้มารับการตรวจเป็นผู้เยาว์ ก็อาจงดเว้นไม่ต้องชำระค่าตรวจสายตาเลยก็ได้ ในกรณีของเรา อายุเกินผู้เยาว์มานานโข สามีขี้ตืดจอมวางแผนจึงหาข้อมูลล่วงหน้าจากอินเตอร์เน็ต พบว่าช่วงนั้น silmäasema เสนอโปรโมชั่นตรวจวัดสายตาราคาถูกกว่าร้านอื่น ฮีจัดแจงโทร.นัดวันรับการวัดสายตาให้เราล่วงหน้า ในวันตรวจเช็คสายตา เครื่องวัดสายตาเครื่องแรกมีหน้าตาเหมือนกับที่เห็นทั่วไป คือมีที่รองคาง มีรูให้ส่องในกล้อง แล้วจะมองเห็นฉากเรืองแสงที่เคลื่อนปรับระยะเดินหน้า ถอยหลังจนฉากที่เราเห็นเบลอๆเปลี่ยนเป็นชัดขึ้น อะไรประมาณนี้ อึดใจหนึ่งก็มีกระดาษปริ้นออกมาเพื่อบอกค่าสายตา
แต่ยังไม่จบตรงนี้เพราะขั้นตอนต่อไปย้ายจากเครื่องแรกไปยังห้องที่มีอุปกรณ์ครบครัน เพื่อตรวจอย่างละเอียดและใช้เวลาเกือบชั่วโมง ไม่สามารถอธิบายได้ครบทุกขั้นตอน จึงขอแสดงจากภาพดังต่อไปนี้
ในที่สุดการตรวจวัดค่าสายตาก็จบสิ้นลง โดยที่ชำะค่าตรวจวัดไป 28 ยูโรพร้อมกับได้ใบบันทึกค่าวัดระดับสายตา (silmälasiresepti) เพื่อนำไปสั่งตัดเลนส์ประกอบแว่นสายตาต่อไป ณ จุดนี้ทางร้านก็พยายามแนะนำให้ตัดแว่นที่ร้านเลย แต่ก็ไม่ได้คะยั้นคะยอมาก เพราะเค้ารู้ว่าจะทำหรือไม่นั้นเป็นสิทธิ์ของลูกค้า
ยิ่งเขียนยิ่งยาว ดังนั้นขอเล่าต่อในบทถัดไปก็แล้วกัน เชิญอ่านตอนต่อไปได้เลยฮ้าาาาาา
ในช่วงแรกจึงพยายามไม่หาเหตุจำเป็นที่จะต้องสวมแว่นตา คือไม่ต้องขับรถ(ยังไม่มีใบอนุญาตขับขี่ของที่นี่) ไม่ดูภาพยนตร์ในโรงหนัง(ค่าตั๋วแพง) และหามุมนั่งใกล้จอทีวีให้มากที่สุด แต่จนแล้วจนเล่าก็จำเป็นต้องหาแว่นตามาสวมเมื่อต้องเข้าชั้นเรียนภาษา และดันโชคร้ายโดนจัดให้นั่งห่างกระดานซะสุดแถวววว ทำไงดีล่ะทีนี้ รู้มา(จากแม่สามี)ว่าค่าตัดแว่น ค่าเลนส์และโครงแว่นตาน่ะ ราคาหลายร้อยยูโรเชียวนะ เราเองไม่อยากใช้จ่ายเงินมากขนาดนั้นก็เลยลองหาทางเลือกอื่นดูก่อน วันหนึ่งเดินเลือกซื้อของในร้านขายของมือสอง เจอแว่นสายตาเก่าอยู่คู่หนึ่งราคาไม่ถึงสามยูโร ลองใส่ดูแม้จะไม่ใช่ระดับสายตาที่เหมาะกับเราแต่ก็มองเห็นชัดขึ้นมาก จึงไม่รอช้า สอยมาทันที ใช้อยู่พักใหญ่แต่เพราะโครงแว่นอ่อนแอ จึงหักง่าย ป๊อก! เป็นอันจบสิ้นกัน ขอไว้อาลัยแด่แว่นตามือสองคู่แรกในชีวิตของเรา เฮ้อ...
ช่วงระหว่างที่กำลังตระเวนหาแว่นตา(มือสอง)คู่ต่อไปนั้น เป็นช่วงที่ลำบากที่สุดถึงขนาดต้องขอยืมแว่นตาของพี่สาวใจดีที่นั่งเรียนติดกันมาสวมเพื่อมองดูกระดาน เปลี่ยนกันสวมทุกสิบนาทีเลย มึนหัวอยู่ทุกวัน จนมาเจอกับแว่นตาคู่ใหม่จากร้านเดิม และราคาพอๆกับคู่เก่าแต่มองเห็นชัดกว่าเดิมอีกหนึ่งเท่า จากนั้นมาจึงใช้แบบทะนุถนอมนานข้ามปี จนเรียนจบคลาส แต่ก็นะ เพราะยังไม่ใช่แว่นตาที่ทำมาเพื่อสายตาของเรา การมองเห็นจึงไม่ชัดถึงหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์และที่สำคัญเวลาที่ไม่สวม เริ่มสังเกตว่าระดับการมองเห็นด้วยตาเปล่าแย่กว่าสองปีที่แล้วซะอีก ในที่สุดหลังจากพลัดพลากจากแว่นตาเม็ดอินไทแลนด์ของเรามาเป็นเวลาสองปี ตอนนี้เรามีงานทำ มีรายได้ประจำ จึงสมควรแก่เวลาที่จะวัดสายตาอีกครั้งและตัดแว่นใหม่เสียที และที่จะเล่าต่อไปนี้คือประสบกาณ์ตัดแว่นสายตาในต่างแดน ที่อันที่จริงไม่ยาก และไม่แพงอย่างที่คิด
ในประเทศฟินแลนด์ "จักษุแพทย์" หรือ silmälääkäri มีหน้าที่รักษาโรคทางตาเท่านั้น ดังนั้นหน้าที่"วัดระดับการมองเห็น" (näöntarkastus) {ขอเรียนสั้นๆว่าวัดสายตา}จึงเป็นของ"ช่างวัดสายตา" หรือ optikko โดยทั่วไปสามารถติดต่อเพื่อวัดสายตาได้ตามร้านขายแว่นตาทั่วไป เช่น Silmäasema, Specsavers, Fenno Optiikka, Instrumentarium เป็นต้น แต่ละร้านก็จะระบุค่าบริการต่างกันไป หากมีอัตราแข่งขันสูงก็อาจมีส่วนลดตามโปรโมชั่น ค่าตรวจวัดสายตาและค่าตัดแว่นจะแยกกัน และหากมีใบส่งตัวจากบุคลากรทางการแพทย์ เช่นหมอ หรือพยาบาล อาทิเช่นผู้มารับการตรวจเป็นผู้เยาว์ ก็อาจงดเว้นไม่ต้องชำระค่าตรวจสายตาเลยก็ได้ ในกรณีของเรา อายุเกินผู้เยาว์มานานโข สามีขี้ตืดจอมวางแผนจึงหาข้อมูลล่วงหน้าจากอินเตอร์เน็ต พบว่าช่วงนั้น silmäasema เสนอโปรโมชั่นตรวจวัดสายตาราคาถูกกว่าร้านอื่น ฮีจัดแจงโทร.นัดวันรับการวัดสายตาให้เราล่วงหน้า ในวันตรวจเช็คสายตา เครื่องวัดสายตาเครื่องแรกมีหน้าตาเหมือนกับที่เห็นทั่วไป คือมีที่รองคาง มีรูให้ส่องในกล้อง แล้วจะมองเห็นฉากเรืองแสงที่เคลื่อนปรับระยะเดินหน้า ถอยหลังจนฉากที่เราเห็นเบลอๆเปลี่ยนเป็นชัดขึ้น อะไรประมาณนี้ อึดใจหนึ่งก็มีกระดาษปริ้นออกมาเพื่อบอกค่าสายตา
เครื่องวัดค่าสายตาในขั้นตอนแรกหน้าตาประมาณนี้ |
Lukutaulu |
ยิ่งเขียนยิ่งยาว ดังนั้นขอเล่าต่อในบทถัดไปก็แล้วกัน เชิญอ่านตอนต่อไปได้เลยฮ้าาาาาา
วันเสาร์, พฤศจิกายน 02, 2556
♫ Pump Pump : มายักย้ายส่ายสะโพกกันเร้ววว
เปลี่ยนแนวมาฟังเพลงเก่ากันดีกว่า คนที่แนะนำเพลงนี้ก็คืออีตาสามีที่ชอบสรรหาเพลงสนุกๆมาหยอกล้อภรรยานั่นเอง เพลงนี้นาย Fredi กับผองเพื่อนซึ่งเป็นตัวแทนจากประเทศฟินแลนด์นำมาร้องบนเวที การประกวดเพลงยูโรวิชชั่น (Eurovision Song Contest) เมื่อปี ค.ศ. 1976 นู่นแน่ะ ฟังแล้วคิดว่าเพลงน่ารักดีก็เลยเอามาหัดร้องเฉพาะท่อนฮุ้คกับลูกชาย ปรากฎว่าติดปากติดหูจนกระทั่งลูกนอนละเมอร้องเพลงนี้ไปด้วย มันน่ารักตรงที่เวลาร้องไปด้วยก็ยักย้ายส่ายเอวและก็เอาสะโพกมาชนกันตรงท่อน "pump pump" นี่แหละ แต่แปลกนะที่หน้านาย Fredi คนร้องเหมือนไม่มีอารมณ์ร่วมไปกับเพลงหรือจังหวะดนตรีเล้ย ทำหน้าตายตลอดทั้งเพลง เป็นอะไรที่ขัดตาเอามั่กมาก
พูดถึงรายการประกวดเพลงยูโรวิชชั่น ตั้งแต่มีการจัดประกวดออกโทรทัศน์มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1956 ตัวแทนจากประเทศฟินแลนด์เคยประกวดชนะอยู่ครั้งหนึ่ง ในปี ค.ศ. 2006 โดยวงดนตรีแนวฮาร์ดร็อคชื่อ Lordi ด้วยเพลง "Hard Rock Hallelujah"
ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยชนะอีกเลย แต่ก็ยังไม่หมดหวังนะ เพราะนักร้องรุ่นใหม่ที่มากความสามารถก็มีอยู่หลายคน และวงการเพลงของฟินแลนด์สมัยนี้ก็พัฒนาให้มีความหลากหลายมากขึ้น
*** เคยนั่งดูรายการ The Voice of Finland รอบคัดเลือกทางโทรทัศน์ มีผู้เข้าร่วมแข่งขันมากมายที่ร้องเพลงได้เพราะจับใจ ชึ่งหลายคนเป็นคนธรรมดาไม่ได้มีแบ็คกราวน์ด้านดนตรีเลย ร้องเพลงเป็นงานอดิเรก(ว่างั้น) ที่มาประกวดก็เพราะรักการร้องเพลงและต้องการแสดงความสามารถออกสื่อ เราคนหนึ่งที่ชอบร้องเพลง ร้องเป็นงานอดิเรก สุข เศร้า เหงา ก็ใช้เพลงเป็นสื่อระบายความในใจ นานๆทีก็ร้องเล่นๆบนเวทีเล็กๆกับเพื่อนๆได้ แต่ไม่กล้าแสดงออกบนเวทีแข่งขันเพราะคิดว่าความสามารถเรายังไม่ดีพอ แต่อนาคตไม่มีใครรู้...สักวันหนึ่งเราอาจหาญกล้าลงประกวดร้องเพลงระดับประเทศ แล้วมีชื่อเสียงขึ้นมาก็ได้ แต่ยังไงก็ตาม วันนี้ขอร้องเพลงสนุกๆให้ตัวเองฟังพร้อมยักย้ายส่ายสะโพกนิดๆไปก่อน
...Pylly vasten pyllyä pump-pump... ^____^
พูดถึงรายการประกวดเพลงยูโรวิชชั่น ตั้งแต่มีการจัดประกวดออกโทรทัศน์มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1956 ตัวแทนจากประเทศฟินแลนด์เคยประกวดชนะอยู่ครั้งหนึ่ง ในปี ค.ศ. 2006 โดยวงดนตรีแนวฮาร์ดร็อคชื่อ Lordi ด้วยเพลง "Hard Rock Hallelujah"
ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยชนะอีกเลย แต่ก็ยังไม่หมดหวังนะ เพราะนักร้องรุ่นใหม่ที่มากความสามารถก็มีอยู่หลายคน และวงการเพลงของฟินแลนด์สมัยนี้ก็พัฒนาให้มีความหลากหลายมากขึ้น
*** เคยนั่งดูรายการ The Voice of Finland รอบคัดเลือกทางโทรทัศน์ มีผู้เข้าร่วมแข่งขันมากมายที่ร้องเพลงได้เพราะจับใจ ชึ่งหลายคนเป็นคนธรรมดาไม่ได้มีแบ็คกราวน์ด้านดนตรีเลย ร้องเพลงเป็นงานอดิเรก(ว่างั้น) ที่มาประกวดก็เพราะรักการร้องเพลงและต้องการแสดงความสามารถออกสื่อ เราคนหนึ่งที่ชอบร้องเพลง ร้องเป็นงานอดิเรก สุข เศร้า เหงา ก็ใช้เพลงเป็นสื่อระบายความในใจ นานๆทีก็ร้องเล่นๆบนเวทีเล็กๆกับเพื่อนๆได้ แต่ไม่กล้าแสดงออกบนเวทีแข่งขันเพราะคิดว่าความสามารถเรายังไม่ดีพอ แต่อนาคตไม่มีใครรู้...สักวันหนึ่งเราอาจหาญกล้าลงประกวดร้องเพลงระดับประเทศ แล้วมีชื่อเสียงขึ้นมาก็ได้ แต่ยังไงก็ตาม วันนี้ขอร้องเพลงสนุกๆให้ตัวเองฟังพร้อมยักย้ายส่ายสะโพกนิดๆไปก่อน
...Pylly vasten pyllyä pump-pump... ^____^
Pump-pump | Pump-pump |
Kauniita naisia aiemmin katselin minäkin | I too used to watch the beautiful women |
Sellainen hurmuripoikako ollut oot sinäkin? | Have you too been that kind of a charmer boy? |
Menneet on menneitä haittaa ei, ei | The past is past, it doesn't bother, no, no |
Roihuva rakkaus kaiken sellaisen mielestä vei | The flaming love took all that from my mind |
Pylly vasten pyllyä pump-pump | Put your bottom next to mine, pump-pump |
Siinä sitä jotakin on... ai ai ai... | There's that something in it... ay ay ay... |
Pylly vasten pyllyä pump-pump | Put your bottom next to mine, pump-pump |
Kuumat väreet aikaan se sai niin se sai | It gave us warm vibrations, yes it did |
Leikkimieli arjen vie harmaan | When you're playful you don't mind the gray everyday life |
Tahdot varmaan tanssia näin | I'm sure you want to dance like this |
Pylly vasten pyllyä pump-pump | Put your bottom next to mine, pump-pump |
Siinä sitä jotakin on... ai ai ai... | There's that something in it... ay ay ay... |
Mulle sä sinkosit sieluuni sykkivän kipinän | You flung to my soul a beating sparkle |
Kättesi kosketus synnytti tänne näin kipinän | The touch of your hands brought a sparkle here inside |
Leikkiä tahdomme kaksin näin, näin | We two want to play by ourselves like this, this |
Missä ja milloin me ollaan ihan vain selvinkin päin | Wherever and whenever we are and when we're sober too |
Pylly vasten pyllyä pump-pump | Put your bottom next to mine, pump-pump |
Siinä sitä jotakin on... ai ai ai... | There's that something in it... ay ay ay... |
Pylly vasten pyllyä pump-pump | Put your bottom next to mine, pump-pump |
Kuumat väreet aikaan se sai niin se sai | It gave us warm vibrations, yes it did |
Leikkimieli arjen vie harmaan | When you're playful you don't mind the gray everyday life |
Tahdot varmaan tanssia näin | I'm sure you want to dance like this |
Pylly vasten pyllyä pump-pump | Put your bottom next to mine, pump-pump |
Siinä sitä jotakin on... ai ai ai... | There's that something in it... ay ay ay... |
Pylly vasten pyllyä pump-pump | Put your bottom next to mine, pump-pump |
Siinä sitä jotakin on... ai ai ai... | There's that something in it... ay ay ay... |
Pylly vasten pyllyä pump-pump | Put your bottom next to mine, pump-pump |
Kuumat väreet aikaan se sai niin se sai | It gave us warm vibrations, yes it did |
Pylly vasten pyllyä pump-pump | Put your bottom next to mine, pump-pump |
Siinä sitä jotakin on... ai ai ai... | There's that something in it... ay ay ay... |
วันพุธ, ตุลาคม 30, 2556
♫ Vaiheillaan : ลังเลใจอยู่ใย เพียงเธอตอบตกลง ฉันพร้อมที่จะเป็นของเธอ
วันนี้เปลี่ยนแนวเพลงมาฟังป็อปผสมอาร์แอนด์บีบ้าง ครั้งแรกที่ฟังเพลงนี้เมโลดี้คุ้นหูมาก เหมือนกำลังฟังเพลงของนักร้องอาร์แอนด์บีจากฝั่งอเมริกา แต่เนื้อเพลงกลับเป็นภาษาฟินนิช พอรู้ว่านักร้องเป็นชาวต่างชาติที่ได้รับตำแหน่งรองชนะเลิศจากเวที The Voice Of Finland ก็ยิ่งทำให้เพลงนี้มีเอกลักษณ์ มีเสน่ห์มากขึ้น *** หนุ่มผิวหมึกคนนี้มีชื่อว่า Ike Ikegwuonu อายุ 24 ปีเองนะคะ รุ่นเดียวกะสามีเดี๊ยนเลยค่ะ คริคริคริ *** เนื้อเพลงมีความหมายทำนองหนุ่มบอกสาวว่าจะลังเลใจอยู่ทำไม ในเมื่อเธอกับฉันต่างก็รับรู้ความรู้สึกดีๆที่มีให้กันแล้ว ฉันว่าเรามาคบกันดีกว่า เพียงเธอตอบตกลง ฉันพร้อมที่จะเป็นของเธอ... ซึ่งรวมกับน้ำเสียงที่ออดอ้อน แกมร้อนใจประสาหนุ่มทำให้เพลงฟังติดหู ติดใจ นอกจากนี้แม้เนื้อร้องจะใช้คำแสลง-slangi (ค้นในดิกชั่นนารี่ธรรมดาไม่เจอ) และภาษาพูด-puhekieli อยู่บ้าง แต่เนื่องจากภาษาที่ใช้ฟังไม่ยาก ตอนนี้จึงฝึกร้องได้จนจบเพลงแล้ว ขอบคุณที่ไม่มีตัว rr โผล่ออกมาให้คนหัดร้องต้องช้ำใจ อิอิอิ ;)
Ooo aaa x6
kerto:
MItä me vaiheillaan?
Kumpikin jo tietää mihin tää vie (vow)
Ei tehä täst vaikeempaa
Jos tunnet niin kuin mä, anna fiilis vie
Jos tahot, mä oon sun.
Tsiigasin sua kauempaa
Ennen kun tiesin edes nimeäs
Sus on kaikki kohdallaan
Pakko tarttuu hetkeen
Ooo aaa x3
Beibi tehdään tää juttu oikein
Tuu mun mukaan
Ooo aaa (jee) ooo aa ooo aaa
Kahdestaan
Jos tahdot oon sun
kerto
Beibi kun me tanssitaan
Vannon että sä tunnet niin kuin mä
Ootko valmis jatkamaan
Sä voit sanoo mulle suoraan
Ooo aaa x3
Tänään tehään tää juttu oikein
Tuu mun mukaan
Ooo aaa (mukaan) ooo aaa ooo aaa
Kahdestaan
Jos tahdot oon sun
kerto
Suotta me vaiheillaan
Eiköhän laiteta tää tapahtumaan
Ei tehä täst sen vaikeempaa
Eiköhän laiteta tää tapahtumaan (Jee’eei)
kerto
Sun sun
Jos tahot mä oon sun
Ooo aaa x6
kerto:
MItä me vaiheillaan?
Kumpikin jo tietää mihin tää vie (vow)
Ei tehä täst vaikeempaa
Jos tunnet niin kuin mä, anna fiilis vie
Jos tahot, mä oon sun.
Tsiigasin sua kauempaa
Ennen kun tiesin edes nimeäs
Sus on kaikki kohdallaan
Pakko tarttuu hetkeen
Ooo aaa x3
Beibi tehdään tää juttu oikein
Tuu mun mukaan
Ooo aaa (jee) ooo aa ooo aaa
Kahdestaan
Jos tahdot oon sun
kerto
Beibi kun me tanssitaan
Vannon että sä tunnet niin kuin mä
Ootko valmis jatkamaan
Sä voit sanoo mulle suoraan
Ooo aaa x3
Tänään tehään tää juttu oikein
Tuu mun mukaan
Ooo aaa (mukaan) ooo aaa ooo aaa
Kahdestaan
Jos tahdot oon sun
kerto
Suotta me vaiheillaan
Eiköhän laiteta tää tapahtumaan
Ei tehä täst sen vaikeempaa
Eiköhän laiteta tää tapahtumaan (Jee’eei)
kerto
Sun sun
Jos tahot mä oon sun
วันพฤหัสบดี, ตุลาคม 24, 2556
♫ Sabotage : วินาศกรรมหัวใจ
เมื่อพูดถึงเพลงฟินนิชที่ชอบ จำได้ว่าสี่ปีที่แล้วที่มาเยือนฟินแลนด์เป็นเพลงที่กำลังนิยม หมุนวิทยุไปคลื่นไหนก็เจอเพลงนี้ ดนตรีและทำนองคุ้นหู อีกทั้งเสียงร้องก็ลืมไม่ลง ตอนนี้คุ้นเคยกับภาษาฟินนิชมากขึ้นแล้วลองหามาฟังอีกก็ยิ่งชอบ ยิ่งศึกษาเนื้อเพลงก็ยิ่งอยากฝึกร้องให้เป็น ไม่รู้ว่าใครชอบเพลงแนวนี้บ้าง แต่นักร้องชื่อ Chisu คนนี้การันตีความสามารถด้วยรางวัล Emma Awards ทุกครั้งที่ได้รับเสนอชื่อเข้าชิง
ความหมายของ Sabotage แปลว่า การก่อวินาศกรรม, การบ่อนทำลาย
ไม่แน่ใจว่า เพลงตัดพ้อต่อว่าเธอได้บ่อนทำลายความรักความเชื่อใจของฉัน จากรักที่หวานชื่นจึงกลายเป็นขมขื่น เจ็บลึกและแสบทรวงดั่งศรปักลงกลางแผลใจ เจ็บจนชา อะไรประมาณนี้
หรืออาจมีนัยพร่ำเพ้อว่าแม้จะเจ็บมาหลายหนแล้ว เจ็บจนชาชิน แต่ก็ยังไม่เข็ด ยังอยากมีความรัก แบบนี้ก็เป็นได้
** ความสามารถในการแปลภาษานี้ยังไม่แตกฉาน จึงขอ interpret - ตีความจากความรู้สึกเมื่อได้ฟังเพลง คงไม่ว่ากันเนอะ ^^
ความหมายของ Sabotage แปลว่า การก่อวินาศกรรม, การบ่อนทำลาย
ไม่แน่ใจว่า เพลงตัดพ้อต่อว่าเธอได้บ่อนทำลายความรักความเชื่อใจของฉัน จากรักที่หวานชื่นจึงกลายเป็นขมขื่น เจ็บลึกและแสบทรวงดั่งศรปักลงกลางแผลใจ เจ็บจนชา อะไรประมาณนี้
หรืออาจมีนัยพร่ำเพ้อว่าแม้จะเจ็บมาหลายหนแล้ว เจ็บจนชาชิน แต่ก็ยังไม่เข็ด ยังอยากมีความรัก แบบนี้ก็เป็นได้
** ความสามารถในการแปลภาษานี้ยังไม่แตกฉาน จึงขอ interpret - ตีความจากความรู้สึกเมื่อได้ฟังเพลง คงไม่ว่ากันเนอะ ^^
Jälleen suloinen
sabotage
Mä putosin sun
ansaas
Mä tiesin että
enkelit
On kieroja kuin
rinkelit
Kun pilvellesi pyrähdin
Oon ystävä mustelmien
Tarpeeksi niistä saa mä en
Siks vaik sun kanssa leikkimään
Ei jäisi hai tai härkäkään
Täs oon taas ilman kypärää
Ja kohta nuolen haavoja
Syviä ja suolaisia
Kun mikään ei tunnu miltään
Kipu korvaa ystävää
On mua viety huoneisiin
Ja murtauduttu mun tunteisiin
Nähdäkseen siel ei mitään oo
Vaik käyttäis kirkkainta valoo
Siel kaikuu kun huutaa "haloo"
Mä tarvitsen mun haavoja
Syviä ja suolaisia
Kun mikään ei tunnu miltään
Kipu korvaa ystävää
Joka ei jätä milloinkaan
Nöyränä vartoo vuoroaan
Kun mikään ei tunnu miltään
Kipu korvaa ystävää
Nolla kolme nolla (030)
Yksi kahdeksan kaks (182)
Viiva äx äx äx äx (-xxxx)
Hoen mun nimeä
Mykkiin puhelinvastaajiin
Et saisin sut viel kerran kii
Muuttaisit mut taas eläväks
Kuulevaks sekä näkeväks
Nolla kolme nolla (030)
Yksi kahdeksan kaks (182)
Viiva sabotage (-sabotage)
Hoen sun vastaajaas
Mä tarvitsen mun haavoja
Syviä ja suolaisia
Kun mikään ei tunnu miltään
Kipu korvaa ystävää
Joka ei jätä milloinkaan
Nöyränä vartoo vuoroaan
Kun mikään ei tunnu miltään
Kipu korvaa ystävää
วันศุกร์, ตุลาคม 18, 2556
อีซาลมิเพรียกหา : Autumn visit to Iisalmi
เมื่ออีซาลมิเพรียกหา...ครอบครัว Reunsati-Salmi
จึงออกเดินทางอีกครั้งระหว่างวันที่ 11 - 14 ตุลาคมที่ผ่านมา คราวนี้ได้ชมทิวทัศน์ของฤดูใบไม้ร่วงขณะเดินทาง ท้องฟ้าสีสด ใบไม้เปลี่ยนสี
และขอบฟ้าสีพาสเทลยามอาทิตย์คล้อยต่ำ สวยไปอีกแบบ แต่เหนือสิ่งอื่นใด
คือการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคุณยายลีซ่าและคุณป้าอันเนลิ ที่คอยการมาเยือนของพวกเราอยู่เสมอ
:)
วันพุธ, กันยายน 25, 2556
น้องหมีมาเที่ยวบ้านไทเลอร์ : Pikku Nalle tapasi Ison Nalleni
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ลูกชายได้รับมอบหมายภารกิจจากคุณครูให้นำตุ๊กตาหมีกลับบ้านพร้อมกับสมุดคู่มือดูแลน้องหมี และครูยังกำกับให้เขียนบันทึกว่าได้ร่วมทำกิจกรรมอะไรกับน้องหมีบ้าง คุณแม่เห็นแล้วทึ่งในความช่างคิดของคุณครู นอกจากจะปลูกฝังให้เด็กๆรู้จักรักของเล่น และปฏิบัติกับของเล่นให้เหมือนเพื่อนเล่นที่เป็นคนแล้ว ยังสอนให้รู้จักรับผิดชอบและมีวินัยปฏิบัติตามคู่มือเพื่อที่จะไม่ทำให้ของเล่นเสียหายอีกด้วย น่ารักจริงๆ
** คู่มือจากคุณครูสรุปได้ว่า ครูขออนุญาตคุณพ่อกับคุณแม่ให้เด็กๆพาน้องหมีมาพักค้างคืนที่บ้าน โดยต้องปฏิบัติกับน้องหมีดังนี้
- ห้ามพาน้องหมีออกนอกบ้านเมื่อเด็กๆออกไปเล่นข้างนอก เนื่องจากน้องหมีอาจสกปรก ชำรุด หรือหายได้
- ห้ามทำความสะอาดน้องหมีด้วยการซัก เพราะขนน้องหมีบอบบาง หากซักล้างไม่ถูกวิธีอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้
- ห้ามป้อนอาหารแก่น้องหมี เพราะน้องหมีกินได้เฉพาะอาหารพิเศษ ที่คุณครูป้อนให้ที่โรงเรียนมาก่อนแล้ว
- เวลาที่เด็กๆทานอาหาร เด็กๆจะต้องทิ้งให้น้องหมีรอและนั่งเล่นในห้องอื่น เพื่อที่ว่าอาหารของเด็กๆจะไม่หกเลอะเทอะบนตัวน้องหมี
- ขอให้เด็กๆจำไว้ว่าต้องนำน้องหมีกลับมาที่โรงเรียนในวันต่อมา เพราะน้องหมีเป็นผู้ช่วยของคุณครูและห้องเรียนคือบ้านของน้องหมี
- ห้ามพาน้องหมีออกนอกบ้านเมื่อเด็กๆออกไปเล่นข้างนอก เนื่องจากน้องหมีอาจสกปรก ชำรุด หรือหายได้
- ห้ามทำความสะอาดน้องหมีด้วยการซัก เพราะขนน้องหมีบอบบาง หากซักล้างไม่ถูกวิธีอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้
- ห้ามป้อนอาหารแก่น้องหมี เพราะน้องหมีกินได้เฉพาะอาหารพิเศษ ที่คุณครูป้อนให้ที่โรงเรียนมาก่อนแล้ว
- เวลาที่เด็กๆทานอาหาร เด็กๆจะต้องทิ้งให้น้องหมีรอและนั่งเล่นในห้องอื่น เพื่อที่ว่าอาหารของเด็กๆจะไม่หกเลอะเทอะบนตัวน้องหมี
- ขอให้เด็กๆจำไว้ว่าต้องนำน้องหมีกลับมาที่โรงเรียนในวันต่อมา เพราะน้องหมีเป็นผู้ช่วยของคุณครูและห้องเรียนคือบ้านของน้องหมี
จิตรกรไทเลอร์ขมักเขม้นวาดรูปและเขียนรายงาน
เพิ่มเติมว่าเมื่อพาน้องหมีกลับบ้านแล้ว ได้แนะนำให้รู้จักใครที่บ้าน และได้ทำกิจกรรมอะไรกับน้องหมีบ้าง
" Lauantaina Nalle tapasi ison Nalleni. Illalla he nukkuivat yhdessä. Sunnuntaina minä, Nalle ja iso Nalle katselimme lastenohjelmaa televisiosta. Lopun päivän Nalle ja iso Nalle leikkivät yhdessä piilosta. " - Thailer
" วันเสาร์น้องหมีได้เจอกับพี่หมีของผม เย็นนั้นเองหมีทั้งสองก็นอนหลับด้วยกัน พอถึงวันอาทิตย์ ผม น้องหมีและพี่หมี พวกเรานั่งดูการ์ตูนในโทรทัศน์ด้วยกัน หลังจากนั้นน้องหมีกับพี่หมีก็เล่นซ่อนหากันตลอดทั้งวัน "
- ไทเลอร์
วันอาทิตย์, กันยายน 15, 2556
Let's plant! Istutetaan!!! (Part II)
และแล้วเราก็ได้ผลผลิตจากสวนเล็กๆของเรา มีทั้งมะเขือเทศและสตรอเบอรี่ แม้ว่าจะออกดอกออกผลไม่มากและลูกไม่ใหญ่ แต่เราก็ภูมิใจมากมายที่ได้กินผลผลิตที่เรารถน้ำ เติมดินและดูแลเองตลอดฤดูร้อน ดีใจไชโย ฮิ้ววววว (อารมณ์ไหนเนี่ย) :)
วันศุกร์, กันยายน 06, 2556
สรุปเรื่อง Nesessiivilauseet : Necessive clause
เพื่อนคนหนึ่งกำลังเรียนเรื่องนี้อยู่ จึงขอให้ช่วยอธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้น ไม่แน่ใจว่าจะช่วยได้มากน้อยขนาดไหน แต่ก็พยายามสรุปให้เข้าใจง่ายที่สุดดังนี้
Nesessiivilauseet
คือประโยคที่ใช้บอกความจำเป็น ว่าควรทำ อะไร หรือต้องทำอะไร จะมีกริยาช่วยคือ
- täytyy/ ei tarvitse,
- pitää/ei tarvitse,
- on pakko/ei ole pakko,
- [ on+ passiivin partisiippi preesens เช่น on tehtävä, mentävä, lähdettävä เป็นต้น อันนี้อาจยากไป ถ้ายังไม่ได้เรียน partisiippi ดังนั้นจึงขอข้ามอันนี้ไปก่อน]
- ประธานที่ใช้กับประโยคพวกนี้จะต้องเป็นรูป Genetiivi เท่านั้น เช่น
minun, sinun, hänen, teidän, meidän, heidän, pojan, tytön, äidin, lapsen, lasten, auton, talon,....
- กริยาช่วยจะเปลี่ยน tense ก็ได้ แต่ต้องอยู่ในรูปบุรุษที่สามเอกพจน์เท่านั้น (เหมือนใช้ประธาน hän กับทุกประโยค) และตามด้วยกริยาหลักรูป infinitiivi ตัวอย่างเช่น
- Minun täytyy lähteä töihin.
- Meidän piti käydä sukulaisen luona viime lauantaina. (รูปอดีต)
- Lasten on pakko mennä kouluun.
- Kenen täytyi maksaa laskut? (รูปอดีต)
- Täytyykö sinun ostaa auto?
- Jääkaapin täytyy olla keittiössä.
- Kahvi täytyy olla kuumaa.
- Minun täytyy ostaa herätyskello.(สังเกตกรรมของประโยค)
- ส่วนประโยคปฏิเสธ เช่น
- Minun ei tarvitse tehdä työtä.(สังเกตกรรมของประโยค)
- Kenenkään ei tarvitse käydä kaupassa.
- Teidän ei ole pakko tehdä kaikkia harjoituksia.(สังเกตกรรมของประโยค)
- Lasten ei ollut pakko mennä kouluun viime viikolla/syyslomalla. (รูปอดีต)
- ส่วนกรรมของประโยคนั้นจะใช้ partitiivi หรือ akkusatiiviที่ไม่ลงท้ายด้วย -n และให้แบ่งเป็นประเภทดังนี้
ประโยคบอกเล่าทั่วไป กรรมเป็นจำนวนนับได้และมีจำนวนหนึ่งเดียว (ใช้ akkusatiiviที่ไม่ลงท้ายด้วย -n)
-Minun täytyy ostaa auto.
-Jonkun täytyy maalata talo.
-Meidän pitää ostaa hyvä sanakirja.
ประโยคปฏิเสธ(ใช้ partitiivi)
-Meidän ei tarvitse ostaa uutta autoa.
ประโยคที่มีกรรมเป็นจำนวนที่นับไม่ได้(ใช้ partitiivi)
-Minun täytyy ostaa perunoita ja maitoa.
ประโยคที่ดำเนินต่อไปยังไม่สิ้นสุด หรือ prosessi (ใช้ partitiivi)
-Nyt minun pitää lukea tätä kirjaa.
ประโยคที่มีกรรมเป็นจำนวนที่นับได้รูปพหูพจน์ (monikko)
-Pekan on pakko tehdä kaikki harjoitukset.
- นอกจากพวกนี้แล้ว ยังมีกริยาอื่นๆที่เข้าข่าย Nesessiivilauseet ด้วย แต่อาจมีความหมายต่างกันไป ไม่เชิงบังคับ เช่น
kannattaa, on hyvä, on parasta, on syytä, on määrä เป็นต้น
รายละเอียดอาจไม่มากเท่าไหร่ แต่พยายามอธิบายให้เข้าใจง่าย หวังว่าเพื่อนๆคงเข้าใจมากขึ้นนะคะ
อ้างอิงจาก A Grammar Book of Finnish by Leila White
วันเสาร์, สิงหาคม 31, 2556
The simple sentence : ประโยคเดี่ยว
The simple sentence
ประโยคเดี่ยว
- § โดยทั่วไปจะประกอบด้วยประธาน และกริยา(ที่ผันตามประธาน) เช่น
Liisa lukee. = ลีซ่าอ่าน โดยมี Liisa เป็นประธานของประโยค และกริยาคือ lukee (ผันมาจากกริยารูปดั้งเดิม คือ lukea¹)
- § แต่ประโยคเดี่ยวอาจละประธานได้ แต่ต้องมีกริยาอยู่ในประโยคเสมอ เช่น
Suomessa
puhutaan suomea. = เราพูดภาษาฟินนิชในประเทศฟินแลนด์
Mennään! = ไปกันเถอะ!
Saako täällä
tupakoida? = ที่นี่อนุญาตให้สูบบุหรี่หรือไม่
- § นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มตัวขยายประโยคได้อีก เช่น
กริยาวิเศษณ์ (ส่วนที่ขยายกริยา เช่น เมื่อไหร่ เวลาไหน ที่ไหน
อย่างไร แก่ใคร) : Liisa lukee
kirjan ensi viikolla. = ลีซ่าจะอ่านหนังสือภายในสัปดาห์หน้า
กริยาคุณศัพท์ (ส่วนที่ขยายคำนาม เช่น มีลักษณะอย่างไร) : Kirja on mielenkiintoinen. = หนังสือ(มีลักษณะ)น่าสนใจ
ตัวอย่างของประโยคเดี่ยว เช่น
ประธาน กริยา กรรม ส่วนขยายกริยา
|
Kaisa nauraa.
|
= ไกสะหัวเราะ
|
Miehet keskustelivat kadulla.
|
= พวกผู้ชายพูดคุยกันบนถนน
|
Pekka kirjoitti kirjeen Liisalle.
|
= เปกกะเขียนจดหมายถึงลีซ่า
|
Hän ei
mennyt kotiin.
|
= เขาไม่ได้กลับบ้าน (รูปกริยาอดีต)
|
Kuka puhuu suomea sujuvasti?
|
= ใครพูดภาษาฟินนิชเก่ง
|
(Minä) Ostin kirjoja alennusmyynnistä.
|
= (ฉัน)ซื้อหนังสือหลายเล่มจากร้านที่ขายลดราคา
|
- § เมื่อทำเป็นประโยคคำถาม จะวางกริยาไว้เป็นคำเริ่มต้นประโยคเสมอ ยกเว้นมีคำถามขึ้นต้นประโยค เช่น
Kirjoittiko
Pekka Liisalle? = เปกกะเขียนถึงลีซ่าหรือไม่
Etkö mennyt
kotiin? = คุณยังไม่กลับบ้านหรอกเหรอ
Missä sinä
asut? = คุณพักอยู่ที่ไหน
วันอาทิตย์, มิถุนายน 02, 2556
Let's plant! Istutetaan!!!
วันนี้อากาศร้อน แดดก็แรงได้โล่ห์ เหมาะมากกับภารกิจตกแต่งสวนลอยฟ้าเล็กๆในอพาร์ทเม้นท์บนชั้นสามของเรา ที่ปลูกในกระถางคือดอกPelargonium นอกจากนี้ก็มีต้นหอม ต้นมะเขือเทศสามกระถางที่บางต้นเริ่มออกดอกแล้ว และที่ปลูกในถาดอนุบาลคือ ต้นพริกอูกันดา และถั่วที่รอลุ้นอยู่ว่าจะออกมาเป็นพันธุ์ไหน(และจะตายมั๊ย เหอเหอเหอ) ที่ขาดไปคือกระถางต้นสตรอเบอรี่ที่อยากปลูกมั่กมาก ทุกวันทั้งเช้า-เย็นไทเลอร์จะคอยรดน้ำ และแม่จะดูแลเติมดิน ส่วนพ่อจะควบคุมเรื่องอาหารที่เติมให้เป็นครั้งคราว หน้าร้อนนี้ไม่รู้จะโตทันกินมั๊ย ทั้งมะเขือเทศและพริก มารอดูกันต่อไปนะ ^^
วันเสาร์, มิถุนายน 01, 2556
1A luokan todistusten jako : ไทเลอร์เรียนจบชั้นเกรดหนึ่ง
Thailer sai lukuvuositodistuksen tänään. Kaikki meni hyvin. Onnea Thailerille! :)
Thailer received a certificate of the academic year today. All went well. Congratulations Thailer! ;)
วันนี้ไทเลอร์ได้รับใบประกาศจบการศึกษาชั้นเกรดหนึ่ง ใบประเมินผลการเรียนออกมาดี แต่พฤติกรรมบางอย่างในชั้นเรียนอาจต้องปรับปรุง อย่างไรก็ตามประเมินผลโดยรวมถือว่าดี ดีใจด้วยนะลูกรัก จุ๊บจุ๊บ ^^
ป.ล. ลองสังเกตดูนะ ห้องเรียนชั้นเกรดหนึ่งของที่นี่มีนักเรียนไม่เกิน 20 คนต่อห้อง โต๊ะก็วางเรียงกันเป็นแถวห่างกันพอควร ไม่แออัด กำกับด้วยครูประจำชั้นหนึ่งคนนั่งโต๊ะหน้าห้อง ส่วนโต๊ะหลังห้องที่มีดอกไม้วางอยู่เป็นโต๊ะครูผู้ช่วย อุปกรณ์การเรียนการสอนครบครัน มีการเรียนการสอนแค่ครึ่งวัน ส่วนการบ้านไม่ได้มีให้ทำทุกวัน การสอบประเมินผลก็ประมาณสองครั้งต่อหนึ่งเทอม เรียนน้อยกว่าเมืองไทยหลายเท่าแต่คุณภาพการเรียนการสอนเป็นอันดับต้นๆของโลก อยากให้บ้านเราเป็นแบบนี้บ้างจัง
Thailer received a certificate of the academic year today. All went well. Congratulations Thailer! ;)
วันนี้ไทเลอร์ได้รับใบประกาศจบการศึกษาชั้นเกรดหนึ่ง ใบประเมินผลการเรียนออกมาดี แต่พฤติกรรมบางอย่างในชั้นเรียนอาจต้องปรับปรุง อย่างไรก็ตามประเมินผลโดยรวมถือว่าดี ดีใจด้วยนะลูกรัก จุ๊บจุ๊บ ^^
ป.ล. ลองสังเกตดูนะ ห้องเรียนชั้นเกรดหนึ่งของที่นี่มีนักเรียนไม่เกิน 20 คนต่อห้อง โต๊ะก็วางเรียงกันเป็นแถวห่างกันพอควร ไม่แออัด กำกับด้วยครูประจำชั้นหนึ่งคนนั่งโต๊ะหน้าห้อง ส่วนโต๊ะหลังห้องที่มีดอกไม้วางอยู่เป็นโต๊ะครูผู้ช่วย อุปกรณ์การเรียนการสอนครบครัน มีการเรียนการสอนแค่ครึ่งวัน ส่วนการบ้านไม่ได้มีให้ทำทุกวัน การสอบประเมินผลก็ประมาณสองครั้งต่อหนึ่งเทอม เรียนน้อยกว่าเมืองไทยหลายเท่าแต่คุณภาพการเรียนการสอนเป็นอันดับต้นๆของโลก อยากให้บ้านเราเป็นแบบนี้บ้างจัง
วันเสาร์, พฤษภาคม 11, 2556
ฝึกปรือฝีมือการแปล : Eläkeläisten terveys parempi kuin ennen
Suomessa eläkeläiset ovat nyt terveempiä kuin aikaisemmin. Yli 65-vuotiaiden suomalaisten toimintakyky on muuttunut selvästi paremmaksi 20:n viime vuoden aikana. Näin kertoo tutkimus, jonka on tehnyt Terveyden ja hyvinvoinnin laitos eli THL.
Tutkimuksen mukaan noin puolet yli 65-vuotiaista kokee, että he ovat vielä täysin työkykyisiä. Eläkeläiset voivat ehkä paremmin siksi, että he ovat tottuneet syömään terveellistä ruokaa ja harrastamaan liikuntaa. Myös tupakanpolton väheneminen on parantanut suomalaisten terveyttä.
THL on kuitenkin huolestunut siitä, että eläkeläiset juovat enemmän alkoholia kuin aikaisemmin.
Yle Uutiset selkosuomeksi | yle.fi
Maanantai 18.03.2013
ในฟินแลนด์ ผู้สูงอายุวัยเกษียณในปัจจุบันมีสุขภาพดีกว่าในอดีต ร่างกายของชาวฟินแลนด์ที่มีอายุเกิน 65 ปีทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วง20ปีที่ผ่านมา
จากการศึกษา พบว่าครึ่งหนึ่งของผู้ที่มีอายุเกิน 65 ปีรู้สึกว่ายังสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ต่อไปได้อีก พวกเค้ากล่าวว่าเหตุผลที่ทำให้มีแข็งแรงอาจมาจากการคุ้นเคยกับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและออกกำลังกายเป็นงานอดิเรก นอกจากนี้การลดการสูบบุหรี่ก็ยังช่วยส่งเสริมสุขภาพของชาวฟินแลนด์ให้ดีขึ้นอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม THL มีความกังวลว่าผู้สูงอายุวัยเกษียณดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้นกว่าในอดีต
วันเสาร์, พฤษภาคม 04, 2556
อิฐทีละก้อน
บทความนี้ได้มาจาก fw mail อ่านแล้วได้ข้อคิดที่ว่า อยากเก่งก็ต้องขยัน อยากสำเร็จก็ต้องพยายามไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ และที่สำคัญอย่าฝืนธรรมชาติ ซึ่งก็คือเวลา การจะประสบความสำเร็จมันต้องใช้เวลา ลองผิดลองถูก ฝึกฝน และบ่มเพาะความรู้และประสบการณ์ เหมือนกำแพงอิฐที่วางเรียงทีละก้อนต่อเป็นชั้นๆขึ้นมา หากฐานไม่มั่นคง กำแพงคงไม่อยู่ทนแข็งแรง ฉันใดก็ฉันนั้น...
อิฐทีละก้อน
เด็กชายอเมริกันอัจฉริยะคนหนึ่ง เรียนข้ามชั้นมาโดยตลอด เพราะสติปัญญาเหนือกว่าเพื่อน ร่วมห้องหลายเท่า เมื่ออายุสิบสาม เขาสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยชั้น นำของประเทศได้ ทุกอย่างน่าจะลงตัว แต่ปรากฏว่าเขามีปัญหาในการใช้ ชีวิตมหาวิทยาลัยอย่างมาก เพราะแม้จะเรียนเก่ง สู้คนอื่นได้สบายๆ แต่กลับไม่อาจเข้ากับเพื่อนร่วม ชั้นได้เลย เขาไม่มีเพื่อนไม่ใช่เพราะเขาไม่ น่าคบแต่อย่างไร ปัญหาคือเขายังเป็นเด็กชาย มีความคิดอ่านแบบเด็กอยู่ ขณะที่เพื่อนร่วมชั้นเป็นหนุ่มสาว วัยยี่สิบ คิดและมีพฤติกรรมอย่างหนุ่มสาว เขากับเพื่อนร่วมชั้นเป็นคนละรุ่น กันจริงๆ
พ่อแม่จำนวนมากให้ลูกเข้าเรียน เร็วกว่ากำหนด อาจเพราะอยากให้จบไวกว่าและเริ่ม ต้นเร็วกว่าคนอื่น อายุสี่ขวบเรียน ป. 1 แล้ว บ่อยครั้งเกิดปัญหาเข้ากับเพื่อน ไม่ได้ เพราะพฤติกรรมและพัฒนาการของเด็ก คนละวัยต่างกัน เด็กเก่งๆ บางคนเรียนข้ามชั้นตลอด อายุสิบแปดจบปริญญาตรี อายุยี่สิบจบปริญญาโท แต่ขาดวุฒิภาวะที่ส่วนใหญ่มาจาก การสะสมด้วยเวลา
เรื่องบางเรื่องจำเป็นต้องดำเนิน ไปทีละขั้นเหมือนการก่อกำแพงอิฐ สร้างบ้าน ต้องวางอิฐทีละก้อน เรียงทีละแถว เมื่อได้ที่แล้วก็วางอิฐทีละก้อน เป็นแถวที่สอง แถวที่สาม ไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ ตามลำดับของมัน ไม่อาจผิดไปจากนี้ เราไม่สามารถก่ออิฐแถวบนสุดโดย ไม่ก่อแถวล่างสุด อิฐทีละก้อนคือการก่อร่างอย่าง มั่นคง อิฐทีละก้อนคือความเสถียร
แต่งานวางอิฐทีละก้อนดูชักช้า ไม่ทันใจสำหรับคนรุ่นใหม่ในยุคที่ ทุกอย่างอยู่ในโหมด ‘เร็วที่สุด’ จึงชอบทางลัด ไม่ว่าทำอะไรก็อยากเห็นผลเร็วๆ มองไม่เห็นความสำคัญหรือความจำเป็น ของ ‘อิฐทีละก้อน’
เราสามารถเรียนจากครูที่ดีที่สุด คือธรรมชาติ ธรรมชาติมี ‘อิฐทีละก้อน’ ของมัน พืชสัตว์ใช้ชีวิตตามกำหนดเวลาของมัน ต้องจำศีลหลังจากสะสมอาหารจนมาก พอ สืบพันธุ์หลังจากสร้างรังเสร็จแล้ว เป็นต้น เป็นลำดับเวลาของมัน ผลไม้ที่มนุษย์ลัดขั้นตอนรีบบ่ม ให้สุก รสชาติสู้ผลไม้ที่สุกตามธรรมชาติ ไม่ได้ สวยแต่รูปจูบไม่หอม
มนุษย์เราก็หนีไม่พ้นสัจธรรมข้อนี้ การเขียนหนังสือ การเป็นช่างมือหนึ่ง การเป็นมืออาชีพในสายต่างๆ ล้วนอาศัยกระบวนการแบบอิฐทีละก้อน ก้าวไปทีละขั้น ไม่มีทางลัด เซียนในทุกแขนงมาจากการฝึกฝน เรียนรู้แบบ ‘อิฐทีละก้อน’
การเป็นนักเขียนต้องใช้เวลาบ่ม การใช้ภาษาที่มีพลังต้องใช้เวลา เพาะ การเป็นพ่อครัว การเข้าใจคุณสมบัติของวัตถุดิบ แต่ละชนิดกินเวลาศึกษา การรู้จักส่วนผสมที่ถูกปากต้อง ใช้เวลาฝึกฝน ฯลฯ
คนมีปัญญาจึงไม่รีบร้อน ทำงานไปเป็นขั้นเป็นตอน ไม่ข้ามผ่านรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ โดยคิดว่ามันไม่สำคัญ เพราะกำแพงที่ก่อด้วยอิฐไม่ครบก้อน นั้นไม่แข็งแรง และพังทลายได้
ชีวิตเราทุกคนประกอบด้วยอิฐจำนวนมาก หากแต่ละท่อนแต่ละจังหวะของชีวิต คืออิฐหนึ่งก้อน ชีวิตเราทั้งชีวิตก็เป็นผลรวมของ อิฐจำนวนมาก อิฐเหล่านี้บางก้อนสมบูรณ์ บางก้อนแตกร้าว บางก้อนเผาไฟมากไปจนดำเกรียม แต่อิฐทุกก้อนสำคัญ
คนที่ประสบความสำเร็จในงานต่างๆ มักมีประสบการณ์คล้ายกันคือ ‘อิฐ’ ก้อนแรกๆ เป็นอิฐที่ไม่สมบูรณ์มีตำหนิ เผาไม่ได้ที่ หรือเผามากไปจนเกรียม เหล่านี้คือการทดลอง การฝึกฝน การเคี่ยวกรำ ความเหนื่อยยากลำบาก แต่อิฐแต่ละก้อนมีความจำเป็นต้อง มีอยู่ อิฐไม่สมบูรณ์เหล่านี้เป็นรากฐาน ของอิฐชั้นต่อๆ ไปที่ดีกว่าเดิม ก่อรวมเป็นงานชิ้นใหญ่
ยอดนักประดิษฐ์ของโลก ธอมัส เอดิสัน บอกว่า “ผมทำงานอย่างสนุกสนานสิบแปด ชั่วโมงต่อวัน นอกจากงีบเล็กๆ แล้ว ผมนอนราว 4-5 ชั่วโมงต่อคืน”
เขาพิสูจน์ให้เราเห็นว่าอิฐไม่ สมบูรณ์สำคัญเท่าๆ กับอิฐที่สมบูรณ์ เขาชี้ว่าหากผลงานชิ้นหนึ่งประกอบ ด้วยอิฐร้อยก้อน ไอเดียดีเป็นแค่อิฐก้อนหนึ่ง เท่านั้น ที่เหลืออีก 99 ก้อนคือความเหน็ดเหนื่อย การลงมือทดลองทำ ล้มแล้วลุก ล้มแล้วลุก ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
คู่แข่งของเอดิสัน นิโคลา เทสลา ซึ่งเป็นอัจฉริยะนักประดิษฐ์ ผู้คิดค้นกระแสไฟฟ้าสลับและผลงาน ต่างๆ มากมาย นอนวันละสองชั่วโมง ทำงานทดลองซ้ำแล้วซ้ำอีกจนสำเร็จ
อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ ผู้ประดิษฐ์โทรศัพท์ สอนหนังสือในมหาวิทยาลัยตอนกลาง วัน กลางคืนเป็นนกฮูกราตรี ทำงานทดลองโทรศัพท์ของเขา ทดลองไปทีละขั้น ทดลองแล้วทดลองอีก ก่ออิฐทีละก้อนอย่างอดทน
การสั่งสอนเด็กจึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องให้เด็กรู้ว่า ชีวิตไม่มีอะไรได้มาแบบลัดขั้นตอน เราไม่อาจมีความรู้โดยปราศจากการ ขวนขวาย ไม่มีทางได้ทักษะอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยไม่ต้องฝึกฝน
อย่าบ่นว่างานที่ทำน่าเบื่อ อย่ามองว่าความผิดพลาดเป็นความ น่าเบื่อ จงมองว่ามันเป็นประสบการณ์ มองว่างานที่กำลังทำแต่ละวันนั้น เป็นเพียงอิฐก้อนหนึ่งในบรรดา หลายพันหลายหมื่นก้อนในชีวิตเรา
อิฐที่ถูกไฟเผาจนเกรียมอาจดูไม่ สวย แต่มันแข็งแกร่งกว่าอิฐธรรมดา เพราะไฟช่วยเคี่ยวกรำให้มันแกร่ง
ประสบการณ์เลวร้ายไม่ใช่ความเลว ร้ายและความล้มเหลวแต่ละครั้ง ไม่ใช่ความล้มเหลว หากเราใช้พวกมันเป็นอิฐที่รองรับ อิฐก้อนต่อๆ ไป
วินทร์ เลียววาริณ
อิฐทีละก้อน
เด็กชายอเมริกันอัจฉริยะคนหนึ่ง
พ่อแม่จำนวนมากให้ลูกเข้าเรียน
เรื่องบางเรื่องจำเป็นต้องดำเนิน
แต่งานวางอิฐทีละก้อนดูชักช้า
เราสามารถเรียนจากครูที่ดีที่สุด
มนุษย์เราก็หนีไม่พ้นสัจธรรมข้อนี้
การเป็นนักเขียนต้องใช้เวลาบ่ม การใช้ภาษาที่มีพลังต้องใช้เวลา
คนมีปัญญาจึงไม่รีบร้อน ทำงานไปเป็นขั้นเป็นตอน ไม่ข้ามผ่านรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ โดยคิดว่ามันไม่สำคัญ เพราะกำแพงที่ก่อด้วยอิฐไม่ครบก้อน
ชีวิตเราทุกคนประกอบด้วยอิฐจำนวนมาก
คนที่ประสบความสำเร็จในงานต่างๆ
ยอดนักประดิษฐ์ของโลก ธอมัส เอดิสัน บอกว่า “ผมทำงานอย่างสนุกสนานสิบแปด
เขาพิสูจน์ให้เราเห็นว่าอิฐไม่
คู่แข่งของเอดิสัน นิโคลา เทสลา ซึ่งเป็นอัจฉริยะนักประดิษฐ์ ผู้คิดค้นกระแสไฟฟ้าสลับและผลงาน
อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ ผู้ประดิษฐ์โทรศัพท์ สอนหนังสือในมหาวิทยาลัยตอนกลาง
การสั่งสอนเด็กจึงจำเป็นอย่างยิ่ง
อย่าบ่นว่างานที่ทำน่าเบื่อ อย่ามองว่าความผิดพลาดเป็นความ
อิฐที่ถูกไฟเผาจนเกรียมอาจดูไม่
ประสบการณ์เลวร้ายไม่ใช่ความเลว
วินทร์ เลียววาริณ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)