ในช่วงแรกจึงพยายามไม่หาเหตุจำเป็นที่จะต้องสวมแว่นตา คือไม่ต้องขับรถ(ยังไม่มีใบอนุญาตขับขี่ของที่นี่) ไม่ดูภาพยนตร์ในโรงหนัง(ค่าตั๋วแพง) และหามุมนั่งใกล้จอทีวีให้มากที่สุด แต่จนแล้วจนเล่าก็จำเป็นต้องหาแว่นตามาสวมเมื่อต้องเข้าชั้นเรียนภาษา และดันโชคร้ายโดนจัดให้นั่งห่างกระดานซะสุดแถวววว ทำไงดีล่ะทีนี้ รู้มา(จากแม่สามี)ว่าค่าตัดแว่น ค่าเลนส์และโครงแว่นตาน่ะ ราคาหลายร้อยยูโรเชียวนะ เราเองไม่อยากใช้จ่ายเงินมากขนาดนั้นก็เลยลองหาทางเลือกอื่นดูก่อน วันหนึ่งเดินเลือกซื้อของในร้านขายของมือสอง เจอแว่นสายตาเก่าอยู่คู่หนึ่งราคาไม่ถึงสามยูโร ลองใส่ดูแม้จะไม่ใช่ระดับสายตาที่เหมาะกับเราแต่ก็มองเห็นชัดขึ้นมาก จึงไม่รอช้า สอยมาทันที ใช้อยู่พักใหญ่แต่เพราะโครงแว่นอ่อนแอ จึงหักง่าย ป๊อก! เป็นอันจบสิ้นกัน ขอไว้อาลัยแด่แว่นตามือสองคู่แรกในชีวิตของเรา เฮ้อ...
ช่วงระหว่างที่กำลังตระเวนหาแว่นตา(มือสอง)คู่ต่อไปนั้น เป็นช่วงที่ลำบากที่สุดถึงขนาดต้องขอยืมแว่นตาของพี่สาวใจดีที่นั่งเรียนติดกันมาสวมเพื่อมองดูกระดาน เปลี่ยนกันสวมทุกสิบนาทีเลย มึนหัวอยู่ทุกวัน จนมาเจอกับแว่นตาคู่ใหม่จากร้านเดิม และราคาพอๆกับคู่เก่าแต่มองเห็นชัดกว่าเดิมอีกหนึ่งเท่า จากนั้นมาจึงใช้แบบทะนุถนอมนานข้ามปี จนเรียนจบคลาส แต่ก็นะ เพราะยังไม่ใช่แว่นตาที่ทำมาเพื่อสายตาของเรา การมองเห็นจึงไม่ชัดถึงหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์และที่สำคัญเวลาที่ไม่สวม เริ่มสังเกตว่าระดับการมองเห็นด้วยตาเปล่าแย่กว่าสองปีที่แล้วซะอีก ในที่สุดหลังจากพลัดพลากจากแว่นตาเม็ดอินไทแลนด์ของเรามาเป็นเวลาสองปี ตอนนี้เรามีงานทำ มีรายได้ประจำ จึงสมควรแก่เวลาที่จะวัดสายตาอีกครั้งและตัดแว่นใหม่เสียที และที่จะเล่าต่อไปนี้คือประสบกาณ์ตัดแว่นสายตาในต่างแดน ที่อันที่จริงไม่ยาก และไม่แพงอย่างที่คิด
ในประเทศฟินแลนด์ "จักษุแพทย์" หรือ silmälääkäri มีหน้าที่รักษาโรคทางตาเท่านั้น ดังนั้นหน้าที่"วัดระดับการมองเห็น" (näöntarkastus) {ขอเรียนสั้นๆว่าวัดสายตา}จึงเป็นของ"ช่างวัดสายตา" หรือ optikko โดยทั่วไปสามารถติดต่อเพื่อวัดสายตาได้ตามร้านขายแว่นตาทั่วไป เช่น Silmäasema, Specsavers, Fenno Optiikka, Instrumentarium เป็นต้น แต่ละร้านก็จะระบุค่าบริการต่างกันไป หากมีอัตราแข่งขันสูงก็อาจมีส่วนลดตามโปรโมชั่น ค่าตรวจวัดสายตาและค่าตัดแว่นจะแยกกัน และหากมีใบส่งตัวจากบุคลากรทางการแพทย์ เช่นหมอ หรือพยาบาล อาทิเช่นผู้มารับการตรวจเป็นผู้เยาว์ ก็อาจงดเว้นไม่ต้องชำระค่าตรวจสายตาเลยก็ได้ ในกรณีของเรา อายุเกินผู้เยาว์มานานโข สามีขี้ตืดจอมวางแผนจึงหาข้อมูลล่วงหน้าจากอินเตอร์เน็ต พบว่าช่วงนั้น silmäasema เสนอโปรโมชั่นตรวจวัดสายตาราคาถูกกว่าร้านอื่น ฮีจัดแจงโทร.นัดวันรับการวัดสายตาให้เราล่วงหน้า ในวันตรวจเช็คสายตา เครื่องวัดสายตาเครื่องแรกมีหน้าตาเหมือนกับที่เห็นทั่วไป คือมีที่รองคาง มีรูให้ส่องในกล้อง แล้วจะมองเห็นฉากเรืองแสงที่เคลื่อนปรับระยะเดินหน้า ถอยหลังจนฉากที่เราเห็นเบลอๆเปลี่ยนเป็นชัดขึ้น อะไรประมาณนี้ อึดใจหนึ่งก็มีกระดาษปริ้นออกมาเพื่อบอกค่าสายตา
เครื่องวัดค่าสายตาในขั้นตอนแรกหน้าตาประมาณนี้ |
Lukutaulu |
ยิ่งเขียนยิ่งยาว ดังนั้นขอเล่าต่อในบทถัดไปก็แล้วกัน เชิญอ่านตอนต่อไปได้เลยฮ้าาาาาา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น