วันจันทร์, ตุลาคม 10, 2559

YKI TEST ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถ

มีเสียงเรียกร้องอยู่หลายเสียงจากเพื่อนๆ และมีแฟนบล็อคท่านหนึ่งขอให้ช่วยแนะนำการเตรียมสอบ YKI TEST ที่หลายคนไม่มั่นใจที่จะลงสอบ หรือบางคนก็กังวลมาก กลัวว่าจะยากเกินไป ไหนจะหาตำราและเอกสารเตรียมสอบยากยิ่งกว่างมเข็มบ้างล่ะ แล้วไหนจะต้องปรับหูปรับลิ้นให้เจ้าของภาษาเข้าใจเราให้มากที่สุดอีกล่ะ ในฐานะที่เราก็เคยเตรียมสอบมาก่อน และก็สอบผ่านแล้ว จึงขอแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับแนวข้อสอบ YKI TEST และการเตรียมตัวสอบไว้ตรงนี้ให้มากเท่าที่ตัวเองจำได้

                  


ก่อนอื่นมารู้จักเจ้าข้อสอบนี้ก่อนว่ามันคืออะไร
YKI (Yleiset Kielitutkinnot) คือ ข้อสอบมาตรฐานที่จัดทำมาเพื่อวัดระดับความสามารถทางภาษา ซึ่งดำเนินการจัดสอบและตรวจสอบโดยมหาวิทยาลัยยึแวสกึแหละ (University of Jyväskylä)และรับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการของประเทศฟินแลนด์ (Finnish Ministry of Education) ดังนั้นจึงจัดสอบภายในประเทศเท่านั้น ส่วนใหญ่แล้วชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศฟินแลนด์จะเข้าใจว่า YKI TEST คือ ข้อสอบที่วัดระดับภาษาฟินนิช และเมื่อสอบผ่านระดับกลาง (Keskitaso) คือได้คะแนนระหว่าง 3 - 4 ในสี่ส่วน คือการฟัง พูด อ่าน และเขียน ก็สามารถใช้ใบรับรองที่แสดงผลสอบนี้ยื่นประกอบเอกสารการขอสัญชาติฟินแลนด์ (ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ 
Opetushallitus - Kielitaidon osoittaminen kansalaisuutta haettaessa และนอกจากจะมีข้อสอบวัดระดับความสามารถภาษาฟินนิชแล้ว YKI TEST ยังสามารถใช้วัดความสามารถทางภาษาอื่นๆด้วย ได้แก่ ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน ภาษาอิตาเลี่ยน ภาษารัสเซีย ภาษาซามิ ภาษาสเปน และภาษาสวีดิช จุดประสงค์ของการสอบวัดระดับภาษาพวกนี้หลักๆ เพื่อนำผลการสอบใช้เป็นหลักฐานแสดงความสามารถด้านภาษานั้นๆทั้งในส่วนวิชาชีพ การเรียนการศึกษา การสมัครงาน และการขอสัญชาติฟินแลนด์
(เฉพาะผลสอบภาษาฟินนิชและภาษาสวีดิช)ดังกล่าวตอนต้น


จากประสบการณ์การเตรียมสอบวัดความสามารถทางภาษาส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะ YKI, TOEFL หรือ TOEIC โดยรวมแล้วแบ่งเป็นสองส่วนคือ การเตรียมเนื้อหา และการเตรียมตัวตามโครงสร้างข้อสอบ


การเตรียมเนื้อหา หมายถึง วัดความสามารถของการใช้ภาษาของเรา ความรู้ด้านไวยกรณ์แน่นรึยัง รู้คำศัพท์เพียงพอรึไม่ บอกเล่าเรื่องราวหรืออธิบายตัวเองได้ดีแค่ไหน ประเมินจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเองให้ได้ทั้งสี่ทักษะ (ฟัง พูด อ่าน เขียน) แล้วเสริมในส่วนที่ต้องเสริม แต่อย่าหยุดพัฒนาส่วนที่ดีอยู่แล้วให้ดีขึ้นไปอีก และที่สำคัญเตรียมคำตอบใหกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตทั้งในชีวิตประจำวัน หรือกรณีฉุกเฉิน เช่น ก็อกน้ำรั่ว เห็นคนเดินลัดคิว พบเจออุบัติเหตุ กระเป๋าหรือมือถือหาย เราจะรับมือกับสถานการณ์พวกนี้ได้อย่างไร เป็นต้น รวมทั้งฝึกการสื่อสารด้านอื่นๆ เช่นการโต้ตอบทางอีเมล์ เขียนโปสการ์ดหรือจดหมาย หรือบทเขียนแสดงทัศนคติ เป็นต้น

ส่วนการเตรียมตัวตามโครงสร้าง คือ เตรียมตัวสอบตามโครงสร้างของข้อสอบ เช่น
ข้อสอบมีอยู่สี่ส่วน(สี่พาร์ท) หากจำไม่ผิดจะเริ่มจากพาร์ทการอ่าน (Tekstin ymmärtäminen) กำหนดให้อ่านบทความหัวข้อหลากหลายและมีความสั้นยาวแตกต่างกัน ระหว่าง 3-6 บทความ ควรศึกษาก่อนว่าพาร์ทนี้มีกำหนดเวลาทำข้อสอบทั้งหมดกี่นาที ควรใช้เวลาอ่านเฉลี่ยตอนละกี่นาทีและตอบคำถามกี่นาที และควรเผื่อเวลาตรวจแก้คำตอบในตอนท้ายกี่นาที
** ไม่จำเป็นต้องรู้ศัพท์ทุกคำ เพียงอ่านบทความแล้วสามารถหาคำ key words หรือคำใบ้ที่บอกใจความสำคัญหรือใจความหลักในแต่ละย่อหน้า ซึ่งส่วนใหญ่จะกล่าวถึงซ้ำๆ ก็จะสามารถจับประเด็นเรื่องราวที่ย่อหน้านั้นต้องการสื่อสารแล้ว หากต้องการทำข้อสอบให้ไวที่สุด ควรอ่านชื่อเรื่องเป็นอย่างแรก(หากมี) 
แล้วกวาดตาอ่านทั้งบทความหนึ่งรอบเพื่อตอบคำถามคร่าวๆว่าบทความนี้เกี่ยวกับอะไร ซึ่งส่วนใหญ่จะสัมพันธ์กับชื่อเรื่อง จากนั้นอ่านคำถามและพิจารณาตัวเลือกที่ให้มา แล้วกลับไปอ่านประโยคแรกของแต่ละย่อหน้า วิธีนี้ทำให้สามารถเดาได้ว่าจะพบคำตอบได้จากย่อหน้าใด ไม่เช่นนั้นก็สามารถกวาดตาหาคำตอบได้จากย่อหน้าใกล้เคียง เป็นต้น เมื่อได้คำตอบแล้วก็อ่านคำถามข้อต่อไป หากไม่แน่ใจให้เลือกคำตอบที่เดาว่าถูกที่สุดไปก่อน แล้วกลับมาทำอีกครั้งหากยังเหลือเวลา อย่างไรก็ตาม หมั่นเช็คเวลาขณะทำข้อสอบและอย่าลืมเผื่อเวลาตรวจทานก่อนส่งกระดาษข้อสอบ

จากนั้นจะต่อด้วยพาร์ทการเขียน (Kirjoittaminen) เท่าที่จำได้จะแบ่งเป็นสองหรือสามหัวข้อหลัก ข้อแรกจะระบุสถานการณ์มาให้และสั่งให้เราเขียนจดหมาย หรืออีเมล์ ถึงบุคคลนี้ในสถานการณ์แบบนี้ เราจะใช้ฟอร์มไหนและเขียนอธิบายอย่างไร และอีกหัวข้อหนึ่งมีโจทย์หรือข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และต้องการให้เราเขียนเรียงความแสดงทัศนคติของเราต่อโจทย์ที่ให้มา กำหนดเวลาทำข้อสอบพาร์ทเขียนทั้งหมดไม่เกินหนึ่งชั่วโมง ภายในเวลาที่กำหนดนี้ ก่อนอื่นควรตัดสินใจเลือกข้อเขียนหัวข้อใดที่ถนัดที่สุดก่อน แล้วเผื่อเวลาระดมความคิดและวางแผนโครงสร้างก่อนที่จะเริ่มเขียน และอย่าลืมตรวจทานการสะกดคำ และนับจำนวนคำอีกสักนิด
(หากจำไม่ผิดข้อสอบการเขียนโดยเฉพาะเรียงความแสดงความคิดเห็นจะมีข้อกำหนดจำนวนคำอยู่ด้วย เช่น ต้องเขียนไม่ต่ำกว่า 200 คำ)
**อย่าลืมโครงสร้างเรียงความที่ต้องมีอย่างน้อยสามย่อหน้า ได้แก่ส่วนคำนำ ส่วนเนื้อเรื่อง และส่วนสรุป แม้ว่าส่วนเนื้อเรื่องจะสามารถแยกได้เป็นหลายย่อหน้า แต่ควรระบุใจความสำคัญของแต่ละย่อหน้าอย่างชัดเจนซึ่งส่วนใหญ่เขียนเป็นประโยคแรกของย่อหน้า และเมื่อมีใจความหลักแล้วก็ควรเขียนสนับสนุนใจความหลักให้เหตุผลสอดคล้องกัน อย่าลืมการใช้เครื่องหมายวรรคตอนอย่างถูกต้อง ส่วนการแต่งประโยคนั้นหากไม่มั่นใจเกี่ยวกับไวยกรณ์ หรือคำศัพท์ แนะนำให้เขียนประโยคง่ายแต่ตรงประเด็น ดีกว่าการใช้ประโยคที่ซับซ้อนหรือใช้คำศัพท์ที่อาจไม่เกี่ยวเนื่องกับใจความหลัก นอกจากนี้ควรเขียนเรียงความให้ยาวที่สุดเท่าที่เวลาจะอำนวย เพราะทุกคำทุกประโยคที่นำมาเรียบเรียงเขียนตอบสามารถเรียกคะแนนได้ไม่มากก็น้อย

เมื่อสอบพาร์ทเขียนแล้ว ผู้เข้าสอบจะได้พักครู่ใหญ่เพื่อทานอาหารว่างที่เตรียมไปเอง หรือเข้าห้องน้ำ

จากนั้นจะย้ายห้องสอบไปยังห้องสตูดิโอ เพื่อเริ่มสอบพาร์ทการฟัง (Puheen ymmärtäminen) เจ้าหน้าที่จะจัดให้ผู้สอบหนึ่งคนนั่งโต๊ะที่มีคอมพิวเตอร์หนึ่งตัวต่อเข้ากับ headset ซึ่งเราจะสอบพาร์ทฟังและพูดในห้องนี้ เริ่มจากพาร์ทฟังที่เราฟังคำสนทนา ประกาศต่างๆ แล้วตามด้วยคำถามจากหูฟัง ผู้สอบจะเขียนตอบลงบนกระดาษคำตอบของตัวเอง ส่วนตัวคิดว่าพาร์ทนี้ง่ายที่สุด เพราะไม่ต้องบริหารเวลาด้วยตัวเอง สคริปท์จะรันไปเองเรื่อยๆ แล้วจึงหยุดให้เราเขียนตอบ เราสามารถจดโน้ตลงบนกระดาษเปล่าที่เจ้าหน้าที่ให้มาได้ แต่เราเองก็ต้องมีสมาธิจดจ่อกับบทสนทนาที่เรากำลังฟังด้วยและควรฝึกจดโน้ตให้เร็วแต่เข้าใจง่ายที่สุด

และก็มาถึงพาร์ทที่ส่วนตัวคิดว่ายากที่สุด แต่ใช้เวลาน้อยที่สุด นั่นคือพาร์ทการพูด (Puhuminen) หลังจากพาร์ทการฟังสิ้นสุดลงผู้เข้าสอบจะยังสวมหูฟังอยู่และต้องจัดตำแหน่งไมโครโฟนให้ถูกต้อง เพื่อที่จะสามารถพูดเพื่ออัดเสียงลงในไมโครโฟนได้อย่างถนัด และเมื่อได้ยินโจทย์จากหูฟังหรือได้อ่านคำถามบนจอคอมพิวเตอร์แล้ว จะได้รับเวลาชั่วครู่เพื่อเตรียมคำตอบก่อนที่จะพูดตอบลงในไมโครโฟน โจทย์มีประมาณ 2-4 ข้อที่เกี่ยวเนื่องกับกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น จองเวลาตัดผม นัดหมอ สนทนากับเพื่อน หรือสมมติสถานการณ์หลายๆสถานการณ์แล้วให้เราพูดโต้ตอบกับเทปจากคอมพิวเตอร์ ช่วงที่เตรียมคำตอบสามารถเขียนแนวทางคำตอบลงไปบนกระดาษเปล่าก็ได้ แต่ต้องนึกคำตอบให้เร็วเพราะ มีเวลาเตรียมตัวไม่มาก 
(สามสิบวินาทีถึงสองนาทีแล้วแต่ความยากง่ายของคำถามและความยาวของคำตอบที่กำหนดให้พูด) เช่น ให้เหตุการณ์สมมุติมาว่า "คุณเพิ่งเดินทางกลับมาถึงสนามบินเฮลซิงกิ-วันตา แต่ปรากฎว่ากระเป๋าเดินทางของคุณหาย คุณจะแจ้งเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินเกี่ยวกับกระเป๋าที่หายอย่างไร" ให้เวลาเตรียมตัวสามสิบวินาที และให้เวลาพูดตอบภายในหนึ่งนาที เป็นต้น เมื่อคำสั่งให้เริ่มพูด เราต้องพูดลงในไมโครโฟนที่ติดอยู่กับ headset คอมพิวเตอร์ก็จะเริ่มจับเวลาและทำการอัดเสียงของเราและเซฟเก็บเอาไว้เพื่อส่งต่อไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจข้อสอบ
**ขณะที่สอบพูด ต้องแน่ใจว่าพูดชัด เสียงไม่ดังหรือเบาเกินไป และต้องมีสมาธิอย่างมากเพราะผู้สอบทั้งห้องจะเริ่มพูดพร้อมกัน แม้จะมีส่วนกั้นระหว่างโต๊ะคอมพ์และผู้เข้าสอบแต่ละคนสวมหูฟังอยู่ แต่ก็ยังได้ยินเสียงคนอื่นพูด โดยเฉพาะคนข้างๆที่จะชัดมากเป็นพิเศษ ต้องตั้งสติให้ดี)นอกจากนี้พยายามพูดให้ครบเวลาที่ให้มาแม้ว่าจะตอบคำถามจบไปแล้วก็ตาม พูดสนับสนุนคำตอบหรือเพิ่มเติมอะไรก็ได้ที่ไม่เรื่อยเปื่อยเพราะทุกอย่างนับเป็นคะแนนทั้งนั้น 
(และพยายามใช้เวลาให้ครบ ไม่ขาดและอย่าให้เกิน) การเตรียมตัวในพาร์ทนี้สามารถลองอัดเสียงตัวเองโดยใช้หูฟังต่อกับไมโครโฟนเพื่อทำความคุ้นเคยกับการอุปกรณ์ที่ใช้ในสตูดิโอ และลองปรับน้ำหนักเสียงของตัวเองขณะที่พูดให้ดัง ฟังชัดและพูดลงจังหวะให้พอเหมาะ พร้อมจับเวลาเพื่อฝึกฝนการบริหารเวลาขณะที่พูดไปด้วย

ติดตามอ่าน ตำราและลิ้งค์ที่แนะนำเพื่อเตรียมตัวสอบ YKI เร็วๆนี้

วันอาทิตย์, มีนาคม 20, 2559

Pop-Jazzkuoro คอร์สร้องเพลงประสานเสียงป๊อป-แจ๊ส

“He who sings scares away his woes.”
― Miguel de Cervantes Saavedra

"ผู้ที่ร้องเพลงคือผู้ที่ขับไล่ความทุกข์โศกออกไปจากใจ"

หน้าตาของโน้ตเพลงที่ครูแจกให้ร้อง
ที่มาที่ไป
เริ่มจากการได้มีโอกาสลองเรียนในหลักสูตรระยะสั้นของ
"โครงการส่งเสริมกิจกรรมสันทนาการ-งานอดิเรก-การฝึกอบรมและให้คำปรึกษา" ที่จัดทำออกมาด้วยความร่วมมือระหว่างคณะบริหารของเมือง Järvenpää กับ สถาบัน Järvenpään Opisto, สถาบันดนตรี Keskisen Uudenmaan Musiikkiopisto, โรงเรียนสอนศิลปะ Kuvataidekoulu และอีกหลายสโมสร ออกแบบหลักสูตรมาทุกปีๆละสองครั้ง คือ ภาคฤดูใบไม้ร่วง และภาคฤดูใบไม้ผลิ มีอยู่นับร้อยหลักสูตรแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ เช่น ภาษา ออกกำลังกาย ศิลปะ งานฝีมือ งานบ้าน คอมพิวเตอร์ เต้น ดนตรี เป็นต้น และเนื่องจากส่วนใหญ่เป็นหลักสูตรระยะสั้น กิจกรรมส่วนมากจัดในเวลาเย็นหรือสุดสัปดาห์ ระยะเวลาของแต่ละหลักสูตรภาคละไม่เกินห้าสิบชั่วโมง ค่าธรรมเนียมจึงไม่แพงเกินไป วิธีลงทะเบียนก็ไม่ยุ่งยาก เลือกได้สามทาง คือ ลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ Ilmoittautuminen kursseille หรือวิธีที่สองโดยทางโทรศัพท์ เบอร์ 09 2719 2498 หรือเดินไปสอบถามพร้อมลงทะเบียนได้ที่ สำนักงาน Järvenpää-talo สามารถชำระค่าธรรมเนียมด้วยเงินสด หรือด้วย Liikunta setelit (คูปองออกกำลังกายที่เป็นส่วนหนึ่งของสวัสดิการที่นายจ้างส่วนใหญ่จะมอบแก่พนักงาน เพื่อส่งเสริมให้ออกกำลังกายนอกเวลางาน) 
อัพเดท: ปัจจุบัน หลักสูตรที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการออกกำลังกายนั้น สามารถชำระด้วย Smartum Liikunta- ja kulttuuriseteli หรือคูปองออกกำลังกายและสันทนาการ เท่านั้น

โครงการส่งเสริมกิจกรรมสันทนาการ-งานอดิเรก-การฝึกอบรมและให้คำปรึกษา ของเมือง Järvenpää

หน้าตาของ Liikuntasetelit ของ smartum ใบนี้มีมูลค่าสี่ยูโร 
วิธีใช้โดยการเซ็นชื่อหลังคูปอง สามารถใช้ชำระแทนเงินสดได้ตามมูลค่าของบัตร 
แต่ไม่สามารถแตกออกเป็นเงินย่อย หรือใช้ทอนแทนเงินสด 
เช่น ค่าธรรมเนียม 35 ยูโร เท่ากับ การชำระโดยคูปองมูลค่าสี่ยูโร จำนวนแปดใบ 
บวกเงินสดอีก 3 ยูโร หรืออาจชำระเป็นคูปองมูลค่าสี่ยูโรจำนวนเก้าใบถ้วน 
แต่จะไม่ได้รับเงินทอน เป็นต้น

คอร์สร้องเพลงประสานเสียงป๊อป-แจ๊ส 
Pop-Jazzkuoro
หลักสูตรเลขที่ 7203
เวลาเรียนทุกวันพุธ เวลา 18.00 - 19.30 น.
สถานที่ โรงเรียนมัธยมปลายยาร์เวนแป้
หลักสูตร 48 ชั่วโมง 
ค่าธรรมเนียม 75 ยูโร
ระหว่างวันที่ 9 ก.ย.-2 ธ.ค. 2015 และ 13 ม.ค.-6 เม.ย. 2016 
รายละเอียด  ร่วมเรียนขับร้องเพลงประสานเสียงแนวป๊อปแจ๊สที่หลากหลาย เช่น เพลงสไตล์ Negro spirituals, เพลงจากวงบีเทิลส์, เพลงแจ๊สแนวคลาสสิก และแม้แต่เพลงจากภาพยนตร์การ์ตูนดิสนีย์อันโด่งดัง ครูผู้สอนยังสามารถแนะแนวเกี่ยวกับเนื้อเสียงแก่นักเรียนนักร้องประสานเสียงเมื่อเริ่มเปิดเรียนภาคฤดูใบไม้ร่วง ยินดีต้อนรับผู้ที่สนใจและต้องการสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในกลุ่มเรียนร้องเพลงประสานเสียงของเรา!

สถานที่เรียน

ประสบการณ์ในห้องเรียน
เนื่องจากเราติดภารกิจบางอย่าง ทำให้ไม่สามารถลงเรียนในภาคแรก จึงได้เพียงลงทะเบียนเรียนในภาคฤดูใบไม้ผลิ คือ เริ่มเรียน 13 ม.ค. 2016 ซึ่งเป็นช่วงครึ่งหลังของหลักสูตร และชำระค่าธรรมเนียมเพียง 37,50 ยูโร วันแรกที่เข้าเรียนไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากเพราะไม่คิดว่าจะต้องมีพื้นฐานการร้องเพลงมาก่อน ปรากฎว่ามีนักเรียนใหม่ที่เริ่มเรียนพร้อมกันแค่สองคน ส่วนนักเรียนที่เหลืออีกสิบกว่าคนคือกลุ่มที่เริ่มเรียนมาตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วง ที่ได้เรียนและซ้อมร้องเพลงประสานเสียงมาแล้วหลายเพลงในช่วงครึ่งหลักสูตรที่ผ่านมา เราเองเป็นเด็กใหม่ก็ต้องปรับตัวและพยายามตามพวกที่เหลือให้ทัน อุปกรณ์การสอนของครูคือเปียโน และทุกครั้งที่เริ่มร้องเพลงใหม่ครูจะแจกชีทโน้ตเพลงแก่นักเรียน เราเองไม่เคยเรียนโน้ตเพลงมาก่อน บอกตรงๆว่าพอเห็นโน้ตเพลงแล้วอึ้งเพราะอ่านไม่เป็น แต่ยังไม่อยากถอดใจจนกว่าจะลองดูก่อน 


ก่อนที่เริ่มร้องเพลงจะมีการยืดเส้นยืดสายและวอร์มเสียงก่อน เพื่อผ่อนคลายสรีระที่เป็นทางผ่านของลมและเสียง โดยการหมุนไหล่ ออกกำลังแขนท่าชกมวยหรือท่าสกี หมุนคอไปทางซ้าย-ขวา-หน้าและหลัง  เป็นต้น ส่วนการวอร์มเสียงก็เช่น ครูจะบอกให้นักเรียนเปล่งเสียงเช่น "มอย-มอย-มอย-มอย-มอย" ไล่เสียงทีละครึ่งเสียงเหมือนกับตอนที่เราร้อง โด-เร-มี-เร-โด หลายๆรอบโดยแต่ละรอบจะเริ่มจากโน้ตสเกลหลัก โด, เร, มี, ฟา, ซอล, ลา, ที และ โด ตามลำดับและวกกลับมายังโน้ตเริ่มต้น ขณะเดียวกันครูจะกดโน้ตบนเปียโนนำไปตามลำดับของสเกล โดยกำชับให้ออกเสียงให้เป็นธรรมชาติที่สุด ไม่เค้นและไม่บีบเสียง หรือการวอร์มเสียงด้วยการเป่าปาก (Bubble) ก็ช่วยวอร์มกล้ามเนื้อปากได้ดีทีเดียว (คล้ายกับตัวอย่างการวอร์มเสียงที่อ๊อฟ ปองศักด์ทำให้ดูในวิดิโอนี้

 เพลงที่พวกเราฝึกร้องก็มีทั้งเพลงที่มีเนื้อร้องภาษาอังกฤษ เช่น แนวป๊อป: California Dreamin', Imagine, Circle of Life, I will survive, Killing Me Softly และแนวแจ๊ส: Autumn Leaves, Goodnight Sweetheart, Fly Me To The Moon, All Blues, และ Didn't Leave Nobody But The Baby และที่มีเนื้อร้องภาษาฟินนิช: Hetki Lyö, Minä ja Hän, Herrojen kanssa pellon laidassa, Joka päivä ja jokaikinen yö, และ Ranskalaiset korot 

เนื่องจากเป็นห้องเรียนร้องประสานเสียง สมาชิกในห้องจึงถูกแบ่งออกตามเนื้อเสียงเป็นสามกลุ่ม คือ เสียงโซปราโน (หญิงเสียงสูง) เสียงอัลโต (หญิงเสียงกลางหรือสูงรองลงมา) และเสียงของผู้ชาย(เสียงต่ำ) 
ดังนั้นโน้ตเพลงจึงถูกแบ่งออกเป็นสามกลุ่มแยกตามบรรทัดอย่างชัดเจน แต่ละกลุ่มเสียงจะอ่านโน้ตเพลงในบรรทัดที่กำกับเสียงของตนเท่านั้น ซึ่งบางเพลงมีเนื้อร้องทุกบรรทัดเหมือนกันแต่โน้ตเพลงต่างกัน หรือบางเพลงเนื้อร้องไม่เหมือนกันแต่เมื่อร้องประสานกันแล้วจึงน่าฟัง 

ตัวอย่างเพลงที่มีเนื้อร้องเหมือนกัน แต่ร้องด้วยโน้ตที่ต่างกัน
เสียงโซปราโนร้องบันทัดแรก(มีเลข 13 กำกับ) บรรทัดถัดมาเป็นของเสียงร้องอัลโต
และบรรทัดสุดท้ายร้องโดยเสียงผู้ชาย
(สามบรรทัดแรกด้านบนใช้โน้ตเดียวกันและร้องพร้อมกันทั้งสามกลุ่ม)

ตัวอย่างเพลงที่มีเนื้อร้องไม่เหมือนกัน กลุ่มเสียงโซปราโนร้องตามเนื้อร้องในบันทัดแรก
บรรทัดที่สองและสามกำกับเสียงร้องของอัลโตและเสียงผู้ชาย
ที่ส่งเสียงร้องคล้ายเครื่องดนตรีเคาะจังหวะเป็นฉากหลังของเพลง

ถามว่าเพลงที่นำมาร้องมีเยอะมั๊ย ก็คิดว่าค่อนข้างเยอะ และท้าทายอยู่พอสมควร โดยเฉพาะคนที่อ่านโน้ตไม่เป็นอย่างเราที่ต้องหมั่นฝึกฝน ก่อนที่จะร้องแต่ละเพลงเราต้องฟังตัวอย่างจากครูก่อนเพื่อที่จะร้องขึ้นโน้ตได้อย่างถูกต้อง และตาต้องไว เพื่อคอยตามทำเครื่องหมายกำกับบรรทัดที่เราต้องร้อง เมื่อฟังแล้วคอยร้องตามให้ตรงโน้ตและออกเสียงลงจังหวะอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ยังต้องทำหมายเหตุต่างๆเพิ่มเติม เช่น การแยกหรือประกอบคำร้อง การเอื้อนเสียง เมื่อจบบรรทัดนี้แล้วต้องวกไปร้องต่อที่บรรทัดไหน หรือ เมื่อจบเพลงควรลากเสียงยาวนานเท่าไหร่ เป็นต้น อารมรณ์ก็ควรจูนให้เข้ากับธีมความหมายของเพลง ดังนั้น ตัวเองจึงต้องทำการบ้านเยอะ เพื่อทำความเข้าใจความหมายของเพลงแต่ละเพลง รวมทั้งฝึกออกเสียงเนื้อร้องที่เป็นภาษาฟินนิชที่เราไม่คุ้นเคย นอกจากนี้เมื่อต้องร้องเพลงหลายๆแบบ หลายๆเพลงก็อาจทำให้สับสนได้ การฝึกฝนและการปล่อยใจให้สนุกกับการร้องเพลง จะช่วยให้เราร้องประสานเสียงให้เข้ากับเพื่อนคนอื่นๆได้อย่างไม่ติดขัด

อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์ที่ได้มามันคุ้มค่าเหนือคำบรรยายจริงๆ สำหรับตัวเองนั้นนอกจากจะมีความมั่นใจด้านขับร้องมากขึ้นแล้ว ยังได้พบเพื่อนใหม่ทั้งต่างชาติและต่างวัยที่ชื่นชอบในสิ่งเดียวกัน นั่นคือการร้องเพลง♫ ได้แสดงออกและแบ่งปันความรักในเสียงดนตรีร่วมกัน รวมทั้งได้ร้องประสานเสียงด้วยความกลมกลืน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ขอบคุณครูผู้สอนและเพื่อนร่วมห้องเรียนประสานเสียง สำหรับโอกาสและประสบการณ์ดีๆแบบนี้ที่ได้ทำเป็นครั้งแรกในชีวิต และขณะนี้ที่พวกเรากำลังเรียนจบหลักสูตร พวกเราจึงถือโอกาสจัดคอนเสิร์ตร้องเพลงประสานเสียงที่ได้เรียนและฝึกในห้องเรียนในวันสุดท้ายของหลักสูตร เหมือนเป็นงานแสดงวันจบการศึกษา ดังนี้

•**• คณะผู้สอนและนักเรียนกลุ่มร้องเพลงประสานเสียง Pop/Jazz choir class ของ Järvenpään Opisto ภูมิใจเสนอโชว์ร้องเพลงประสานเสียง ณ ห้องสมุดเมือง Järvenpää ที่จะจัดขึ้นในวันพุธที่ 6 เดือนเมษายนนี้ ตั้งแต่เวลาหกโมงเย็นเป็นต้นไป ไม่เก็บค่าเข้าชม งานนี้เราทุ่มเทฝึกซ้อมและคัดสรรเพลงมาอย่างดี ในฐานะที่เป็นสมาชิกคนหนึ่งของกลุ่ม ขอเชิญชวนเพื่อนๆที่มีใจรักเสียงเพลงป็อปและแจ็สทุกท่านมาร่วมชมการแสดงนี้ 
ขอฝากไว้ด้วยนะคะ •**•

Tytti Arolan johdolla Järvenpään Opiston Pop- jazz - kuoron ensimmäisessä konsertissa kuullaan monenlaisia kappaleita: suomenkielistä poppia mm. Eppu Normaalia, Jenni Vartiaista ja Carolaa sekä englanninkielisiä jazz-standardeja, 50-luvun doo-woppia ja bluegrassia.
Tervetuloa kuuntelemaan ja tutustumaan minkälainen on tämän vuoden pop-jazz- kuoro! Tilaisuuteen on vapaa pääsy.
Tapahtumat Järvenpäässä - Järvenpään kaupunki
https://www.jarvenpaa.fi/jarvenpaa/kalenteri/show.tmpl?id=2159&sivu_id=5800

อัพเดทภาพและวิดีโอจากงานโชว์ร้องเพลงประสานเสียง  Pop/Jazz choir กลางห้องสมุดของเมือง
วันที่ 6 เมษายน 2559








วันศุกร์, กุมภาพันธ์ 19, 2559

✿ ~ Content ~ ✿

Content ~ สารบัญ
แนะนำหน้าสารบัญที่เก็บรวบรวมบทความทั้งหมดของบล็อคนี้โดยจัดเรียงตามหัวข้อ (Articles by topic) คลิ้กบนลิ้งค์ของชื่อบทความเพื่อเปิดอ่านบทความได้เลยค่ะ
 ✿ Live ✻ Explore ✻ Express: ✿ ~ Content ~ ✿


วันศุกร์, มกราคม 29, 2559

Sanakirja : แนะนำพจนานุกรมรวมคำศัพท์ภาษาฟินนิช

พจนานุกรมรวมคำศัพท์ภาษาฟินนิช (Sanakirja)
ส่วนตัวแล้วไม่เคยใช้พจนานุกรมรวมคำศัพท์ฟินนิช-ไทย เพราะยังไม่พบเล่มที่คำศัพท์ครอบคลุมหรือมีคำแปลที่ละเอียด
และเนื่องจากตัวเองคุ้นเคยกับฉบับที่แปลเป็นภาษาอังกฤษมากกว่า จึงเลือกใช้พจนานุกรมรวมคำศัพท์ฟินนิช-อังกฤษ (Suomi-Englanti sanakirja) มาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม พจนานุกรมภาษาที่ดีที่สุดคือฉบับรวมคำศัพท์ที่อธิบายเป็นภาษานั้น 
ซึ่งกรณีนี้ก็คือ พจนานุกรมคำศัพท์ฟินนิชที่อธิบายเป็นภาษาฟินนิช (Suomen kielen sanakirja) ดังนั้นจึงอยากแนะนำพจนานุกรมที่ใช้อยู่ ดังนี้

 Suomen kielen sanakirja maahanmuuttajille 
- Anne Saarikalle, Johanna Vilkuna
มีคำศัพท์พื้นฐานสำหรับผู้ที่กำลังเรียนภาษาระดับเริ่มต้น ปริมาณคำศัพท์จึงไม่มาก เพียง 3,500 คำ อธิบายเป็นภาษาฟินนิช   คำอธิบายเข้าใจง่ายและส่วนใหญ่จะมีประโยคตัวอย่างให้ด้วย เช่น
LAPSI :
ความหมายที่ 1. Lapsi on nuori poika tai tyttö. (เด็ก) > ตัวอย่าง Lapset leikkivät pihalla. Lapsille oli järjestetty juhliin kivaa ohjelmaa. VASTAKOHTA = aikuinen
ความหมายที่ 2. Lapsi on myös jonkun tytär tai poika. (ลูกหญิง หรือ ลูกชาย) > ตัวอย่าง Lapseni tulee huomenna kotiin. Kuinka monta lasta teillä on?
นอกจากนี้ ผู้แต่งยังเพิ่มคำศัพท์ที่สำคัญกับผู้ที่ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ในฟินแลนด์ เช่น 
VELVOLLISUUS: ความหมาย Velvollisuus on asia, joka täytyy tehdä, vaikka ei halua tai jaksa. (หน้าที่, ภาระ, ความรับผิดชอบ) > ตัวอย่าง Lasten velvollisuus on käydä koulua. Sinulla on velvollisuus kertoa totuus. 

ข้อดี - ใช้ง่าย เข้าใจง่าย แนบประโยคตัวอย่างมาให้ด้วย เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นเรียน
ข้อด้อย - คำศัพท์ค่อนข้างจำกัด และคำอธิบายไม่ละเอียดลงลึก


Suomen kielen sanakirja ulkomaalaisille
- Timo Nurmi
เล่มนี้มีคำศัพท์เพิ่มขึ้นมากว่า 17,000 คำ อธิบายเป็นภาษาฟินนิชระดับกลางขึ้นไป และนอกจากจะให้อธิบายความหมายละเอียดขึ้นแล้ว ยังเพิ่มรูปคำที่สำคัญให้ด้วย เช่น genetiivi, partitiivi และ illatiivi ทั้งแบบ yksikkö และ monikko เช่น
LAPSI : LAPSEN : LASTA : LAPSEEN : LAPSIEN : LASTEN : LAPSIA
ความหมายที่ 1. Nuori poika tai tyttö. (เด็ก) > ตัวอย่าง Hän on vielä lapsi. Pihalla oli paljon lapsia leikkimässä.
ความหมายที่ 2. Jonkun tytär tai poika. (ลูกหญิง หรือ ลูกชาย) > ตัวอย่าง Meillä on kaksi lasta.En minä voi kaikille lapsilleni ostaa omaa asuntoa.
ความหมายที่ 3. (อุปมาอุปมัย/เปรียบเปรย)  lapsellinen, naiivi henkilö (อ่อนต่อโลก, ไร้เดียงสา) > ตัวอย่าง Raha-asioissa hän on täysi lapsi. 

ดังนั้นการอธิบายความหมายของคำศัพท์หนึ่งคำจึงมีรายละเอียดมากขึ้นเพื่อ ครอบคลุมสถานการณ์หรือบริบทต่างๆ และเมื่อหาคำว่า LAPSI ก็อาจค้นเจอคำที่ศัพท์ใกล้เคียงอื่นๆเช่น  LAPSEKAS, LAPSELLINEN, LAPSETTAA, LAPSILISÄ, LAPSUUS เป็นต้น

ข้อดี - แสดงรูปคำที่สำคัญในการแต่งประโยค เช่น genetiivi, partitiivi และ illatiivi ทั้งแบบ yksikkö และ monikko, อธิบายความหมายตามบริบทของคำ และยกตัวอย่างแยกบริบท
ข้อด้อย - ไม่เหมาะสำหรับผู้เรียนในระดับเริ่มต้น เนื่องจากคำอธิบายด้วยภาษาฟินนิชระดับกลางขึ้นไปคือใช้คำอธิบายที่ซับซ้อนขึ้น


SUOMI ENGLANTI SUOMI 
- Ilkka Rekiaro, Douglas Robinson
พจนานุกรมคำศัพท์ฟินนิช-อังกฤษ เล่มนี้เป็นแบบพ็อคเก็ตบุ๊ค ประกอบด้วยสองส่วนคือ ส่วนที่แปลคำศัพท์จากฟินนิชเป็นอังกฤษ และส่วนที่แปลจากอังกฤษเป็นฟินนิช และเมื่อสังเกตจากชื่อผู้แต่งที่เป็นเจ้าของภาษาทั้งสองแล้ว กเล่มนี้็ดูน่าเชื่อถืออยู่ไม่น้อย หนังสือมีขนาดเล็กจึงพกพาสะดวกและยังมีคำศัพท์มากถึง 51,000 คำ คำแปลกระชับ มีทั้งคำศัพท์ทั่วไป สำนวนและคำอุปมาอุปมัย บางคำอธิบายด้วยประโยคตัวอย่าง หรือ วลี หรือบางคำรวมคำศัพท์อื่นๆที่มีความหมายใกล้เคียงกันให้ด้วย เช่น 
SAADA LUPA : receive/be granted permission (ขออนุญาต, ได้รับอนุญาต) > Saat luvan totella = You do what I say ; Saanko luvan? (tanssia) = May I have this dance?
LAPSI : child (เด็ก), kid (เด็ก), (KAKARA) brat (เด็กเหลือขอ), (VAUVA) baby (เด็กทารก), (ALAIKÄINEN) minor (ผู้เยาว์); ODOTTAA LASTA : be pregnant, be expecting (a baby) (ตั้งครรภ์); LAPSESTA SAAKKA : since you were a child, since childhood (ตั้งแต่วัยเด็ก, ตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นเด็ก)

ข้อดี - ขนาดเล็ก พกพาสะดวก จุคำศัพท์มาก สามารถหาคำศัพท์ได้ทั้งแบบฟินนิช-อังกฤษ และอังกฤษ-ฟินนิช
ข้อด้อย - ตัวหนังสือเล็ก และเหมาะสำหรับผู้เรียนที่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษค่อนข้างดี หรือรู้ศัพท์อังกฤษค่อนข้างมาก, คำอธิบายไม่ระบุประเภทของคำศัพท์ เช่น นาม กริยา ขยายนาม บุพบท เป็นต้น


Uusi Suomi-Englanti Suursanakirja
-Hurme Raija, Malin Riitta-Leena
เล่มนี้ถือเป็นที่สุดของพจนานุกรมเลยทีเดียว เพราะขึ้นชื่อว่า Suursanakirja นอกจากจะจุคำศัพท์มากถึง 160,000 คำแล้ว ภายในคำค้นหาหนึ่งคำนั้น ยังเจอกลุ่มคำศัพท์  คำประสมและวลีที่มีความเกี่ยวข้องกันอีกมากมาย ครอบคลุมหลายความหมายและหลายบริบท เช่น
LAPSI : child; AVIOTON LAPSI : illegitimate child (บุตรนอกสมรส), SYNTYMÄTÖN LAPSI : unborn child (บุตรที่ยังไม่เกิด), OTTAA LAPSEKSI : adopt (รับเป็นบุตรบุญธรรม), LAPSIPERHE : family with dependent children (ครอบครัวที่มีบุตรที่ยังเป็นผู้เยาว์), LAPSIPUOLI: stepchild (ลูกเลี้ยง) เป็นต้น




ข้อดี -  จุคำศัพท์มาก ละเอียดมาก สามารถหาคำศัพท์ได้เกือบทุกคำที่พบเจอ แยกชนิดของคำแปลระหว่างคำศัพท์ของอังกฤษและคำศัพท์ของอเมริกัน ด้วย
ข้อด้อย - เล่มใหญ่มาก หนามาก และเหมาะสำหรับผู้เรียนที่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษค่อนข้างดี หรือรู้ศัพท์อังกฤษค่อนข้างมาก, คำอธิบายไม่ระบุประเภทของคำศัพท์ เช่น นาม กริยา ขยายนาม บุพบท เป็นต้น


Finnish Dictionary for the language learner 
- Zsuzsanna Oinas
ขอแนะนำหนังสือรวมคำศัพท์อีกเล่มที่มีความพิเศษ เพราะเล่มนี้แยกคำศัพท์ไว้เป็นหมวดหมู่ เกือบ 150 หมวด รวมคำศัพท์และวลีถึง 13,000 รายการ และบางหมวดหมู่ยังแบ่งออกเป็นหมวดย่อยๆ เพื่อแยกกลุ่มย่อยของคำศัพท์ เช่น
หมวด AIKA (เวลา) เป็นหมวดใหญ่ แบ่งเป็นกลุ่มย่อยๆ ตัวอย่างเช่น

หมวดย่อยที่ 1. Ajan yksiköitä หน่วยของเวลา เช่น sekunti - วินาที, minuutti - นาที, puolituntia - ครึ่งชั่วโมง, tunti - ชั่วโมง, päivä - วัน, vuorokausi - ยี่สิบสี่ชั่วโมง, viikko - สัปดาห์, viikkokaupalla - สัปดาห์หลังจากสัปดาห์, viikoittain - ทุกสัปดาห์, viikonloppu - สุดสัปดาห์, kuukausi - เดือน ...เป็นต้น

หมวดย่อยที่ 2. Päivä วัน เช่น toissapäivänä - เมื่อวานซืน, eilen - เมื่อวานนี้, tänään - วันนี้, huomenna - วันพรุ่งนี้, ylihuomenna - มะรืนนี้, aatto - วันก่อนวันเทศกาล, arkipäivä - วันธรรมดา, juhlapäivä - วันหยุดสำคัญ, merkkipäivä - วันครบรอบ, pyhä - วันอาทิตย์(วันไปโบสถ์), työpäivä - วันทำงาน, vapaapäivä - วันหยุดงาน, viikonpäivä - วันในสัปดาห์, vuosipäivä - วันฉลองครบรอบปี, aamuyö - ช่วงหลังเที่ยงคืน, aamukoitto - รุ่งเช้า, aamupäivä - ตอนเช้า, keskipäivä - เที่ยง, päivä - กลางวัน, iltäpäivä - บ่าย, ilta - เย็น, iltamyöhään - ค่ำ,  yömyöhään  - กลางดึก  ... เป็นต้น

หมวดย่อยที่ 3. Viikonpäivät วันในสัปดาห์ เช่น maanantai - วันจันทร์, tiistai - วันอังคาร, keskiviikko - วันพุธ, torstai - วันพฤหัสบดี, perjantai - วันศุกร์, lauantai วันเสาร์ และ sunnuntai - วันอาทิตย์

หมวดย่อยที่ 4. Kuukaudet เดือน เช่น tammikuu - เดือนมกราคม, helmikuu - เดือนกุมภาพันธ์, maaliskuu - เดือนมีนาคม, huhtikuu - เดือนเมษายน...เป็นต้น

หมวดย่อยที่ 5. Vuodenajat ฤดูกาล เช่น kevät - ฤดูใบไม้ผลิ, kesä - ฤดูร้อน, syksy - ฤดูใบไม้ร่วง และ talvi - ฤดูหนาว

หมวดย่อยที่ 6. Juhlapyhiä วันหยุดหรือเทศกาลต่างๆ เช่น isänpäivä - วันพ่อ, itsenäisyyspäivä - วันชาติ/วันประกาศอิสรภาพ, jouluaatto - วันก่อนวันคริสมาสต์, joulupäivä - วันคริสมาสต์, juhannus - กลางฤดูร้อน, pyhäinpäivä -วันสำคัญทางศาสนาเพื่อระลึกถึงนักบุญทั้งหมด,  liputuspäivä - วันสำคัญที่ต้องเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา, pääsiäinen - วันอีสเตอร์, uudenvuodenaatto - วันส่งท้ายปีเก่า, uudenvuodenpäivä - วันปีใหม่, vappu - วันแรงงาน, äitienpäivä - วันแม่...เป็นต้น

หมวดย่อยที่ 7. Kellonaika เวลา เช่น Kello on kymmenen (10.00). Kello on puoli yksitoista (10.30). Kello on puoli yksitoista illalla (22.30).... เป็นต้น

หมวดย่อยที่ 8. Muita ajan ilmauksia สำนวนแสดงเวลาอื่นๆ เช่น aikainen - ก่อนเวลา/แต่เช้าตรู่, aikana - ภายในเวลา, aikaraja - กำหนดเวลา/เส้นตาย, ajankohtainen - ปัจจุบัน/ล่าสุด, ajanlasku - ตามลำดับเวลา, ajanmukainen - ทันสมัย, ajoissa - ตรงเวลา, alussa - ในช่วงแรก/ช่วงเริ่มต้น, antiikki - โบราณ...เป็นต้น

ข้อดี - หนังสือเล่มนี้คำศัพท์เยอะจริงๆและที่สำคัญแบ่งเป็นหมวดหมู่ หาได้ง่าย และเหมาะสำหรับผู้เรียนที่มีพื้นฐานไวยากรณ์ที่พอเพียงในการแต่งประโยค หรือผู้เรียนที่ต้องการขยายฐานคำศัพท์เพื่อการสื่อสารให้สมบูรณ์ 
ข้อเสีย - คำแปลเป็นภาษาอังกฤษ อธิบายสั้นๆ ไม่มีประโยคตัวอย่างหรือมีน้อยมาก ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการค้นหาคำศัพท์ตามลำดับอักษรดังเช่นพจนานุกรมทั่วไป เพราะลำดับคำตามหมวดหมู่เท่านั้น นอกจากนี้ยังไม่ระบุประเภทของคำศัพท์ เช่น นาม กริยา ขยายนาม บุพบท เป็นต้น



วันศุกร์, มกราคม 08, 2559

ปีเก่าผ่านพ้นไป รูปโฉมใหม่ของบล็อคมาเยือน




ต้องขออภัยที่เข้ามาอัพเดทบทความน้อยมากในปีที่เพิ่งผ่านพ้นไปนี้
เพราะเมื่อ
นับรวมกันทั้งปีแล้วเขียนบทความไปทั้งหมดเพียงยี่สิบเรื่องเท่านั้น เนื่องจากต้องเผื่อเวลาทำงานอดิเรกใหม่ๆ และติดภารกิจอื่นๆที่ต้องทำควบคู่ไปกับงานประจำ แม้ว่าจะไม่ค่อยมีโพสใหม่แต่รูปโฉมของบล็อคได้ถูกปรับเปลี่ยนให้ดูสบายตา และอ่านง่ายขึ้น ด้วยการจัดเรียงหัวข้อ Articles by topic ใหม่กำกับด้วยภาษาไทย และยังมีการลบหัวข้อที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป เพื่อคงแก่นสารหรือสาระสำคัญของบล็อคเอาไว้ให้เป็นเรื่องราวของสาวขี้อาย โลกส่วนตัวสูงคนหนึ่ง ที่อยากเป็นนักเขียนเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ''Miss Mayree : An Inspiring Writer Wannabe''

ล่าสุดหัวข้อบทความของบล็อคถูกแบ่งออกเป็นสิบหัวข้อ ดังนี้


มุมหนอนหนังสือเป็นหัวข้อใหม่ที่ต้องการนำเสนอ เพราะงานอดิเรกหลักของมิสไมเรคือการอ่าน อ่านหนังสือ สิ่งพิมพ์ บทเขียนเกือบทุกประเภท ทั้งแบบรูปเล่ม และแบบอิเล็กทรอนิกซ์ และหากมีเวลาว่างจะเลือกขดตัวอ่านหนังสือเงียบๆในมุมส่วนตัวมากกว่าการนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือทำกิจกรรมนอกบ้าน ดังนั้นจึงได้รับแรงบันดาลใจมากมายจากการอ่านเพื่อนำมาเขียนเป็นเรื่องราว หรือใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงบทความในบล็อคนี้ และหนังสือที่นำมาเสนอก็คาดว่าน่าจะมีสาระและให้ข้อคิดต่อผู้อ่านโดยทั่วไป ไม่มากก็น้อย

เหตุผลที่ไม่ได้เข้ามาอัพเดทบล็อคอย่างสม่ำเสมอในปีที่ผ่านมาก็เพราะต้องให้เวลากับกิจกรรมใหม่ งานอดิเรกใหม่ และภารกิจที่ค่อนข้างจะสำคัญ เช่น
- ออกกำลังกายด้วยการฝึกชกมวย Kickboxing
- ลงเรียนการเต้นพร้อมกันสองแนว คือ คลาสเต้นฟลาเมงโก้ Flamenco และคลาสเต้นแนวร่วมสมัย Temporary Dance
- เตรียมสอบวัดระดับทักษะการใช้ภาษาอังกฤษหรือ TOEFL เพื่อนำผลคะแนนยื่นสมัครเข้าเรียนปริญญาโทในมหาวิทยาลัย
- รวบรวมเอกสารเพื่อยื่นขอสัญชาติฟินนิช
เป็นต้น ซึ่งจะเขียนเล่าในโอกาสต่อไปภายใต้หัวข้อ ประสบการณ์ใหม่ในต่างแดน (กิจกรรมชกมวย + คลาสเต้น), บันทึกของคนไกลบ้าน (สอบโทเฟล) และ รอบรู้ฟินแลนด์ (การยื่นขอสัญชาติฟินแลนด์)

ท้ายนี้ขออวยพรผู้อ่านทุกๆท่านให้ประสบแต่สิ่งดีๆ ขอให้บุญบารมีที่ท่านๆได้สั่งสมไว้จงนำพาความสุข ความเจริญเข้ามาในชีวิต ส่วนใครที่พลาดโอกาสงามๆในปีที่ผ่านมา หรือประสบกับความล้มเหลวอยู่ หรือกำลังเป็นทุกข์ ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้ฝันร้ายเลือนหายไปโดยพลัน และหากเรายึดมั่นกับการคิดดี ทำดี คิดบวกและคอยให้กำลังใจตัวเองแล้ว เชื่อว่าเราจะฝ่าฟันอุปสรรคขวากหนามทุกอย่างในชีวิตได้ค่ะ ส่วนมิสไมเรตั้งใจว่าปีนี้จะสมัครสอบโทเฟลอีกครั้ง เพราะผลสอบครั้งที่ผ่านมามีคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ของมหาวิทยาลัย ดังนั้นปีนี้จะตั้งใจให้มากขึ้น นอกจากนี้จะพยายามเข้ามาเขียนบทความอย่างสม่ำเสมอนะคะ •**• สวัสดีปีใหม่ค่ะ •**•

สวัสดี ปีใหม่ ปีสุขสันต์ สำราญกัน ทุกข์หมด ดั่งใจหมาย

ให้ชีวิต ราบรื่น ไม่วุ่นวาย จงสุขกาย สุขใจ ทั้งปีเทอญ

ขอขอบคุณ กลอนปีใหม่ โดยคุณ กำแพงแดง