วันเสาร์, พฤศจิกายน 30, 2556

Itse tehty kranssi ja pikkujoulu : พวงหรีดคริสต์มาสทำเอง

Tässä näin... mun ensimmäinen kranssi. Tein sen Kukkatalon kranssin teko-kurssilla. Olipa kiinnostavaa nähdä personallisia kransseja, ja pitää hauskaa pikkujoulua työkavereiden kanssa.





มีโอกาสไปเข้าคลาสทำพวงหรีดคริสต์มาส(ภาษาฟินนิชเรียกว่า Joulukranssi โยวลุ-กร้านซซิ ที่นิยมนำไปห้อยไว้หน้าประตูบ้านโดยเฉพาะช่วงเทศกาลคริสต์มาส) กับเพื่อนร่วมงาน พอทำเสร็จก็กินเลี้ยงฉลองเทศกาลคริสต์มาสล่วงหน้า(pikkujoulu ปิ๊กกุโยวลุ)ด้วยกันซะเลย ผลงานของทุกคนออกมาสวยเชียว แต่ที่น่าสนใจคืองานฝีมือจะแสดงเอกลักษณ์ของคนทำ รายละเอียดของสิ่งที่นำมาตกแต่งบอกลักษณะนิสัยของคนๆนั้นได้เยอะทีเดียว เราเองทำเป็นครั้งแรกก็ออกมาหน้าตาเอเชียนิดหนึ่ง เพราะเสียบพริกกับกระเทียมเข้าไปด้วย เสียดายไม่มีขิง ข่า ตะไคร้ ให้เลือกตกแต่ง ไม่งั้นก็คงออกมาเป็นต้มยำกุ้งของไทยนี่เอง ฮ่าฮ่าฮ่า




วันพุธ, พฤศจิกายน 20, 2556

ตัดแว่นสายตา ไม่ยาก และไม่แพงอย่างที่คิด (ตอนที่ 2)

อ่านความเดิมตอนที่แล้ว
และเมื่อได้ใบบันทึกค่าวัดระดับสายตา (silmälasiresepti)มาครอบครองแล้ว แผนต่อไปของสามีจอมตืดคือหาร้านที่ตัดแว่นที่ได้ราคาเหมาะสมที่สุด และแล้วฮีก็กูเกิ้ลจนพบร้านตัดแว่นที่ให้บริการสะดวก รวดเร็ว และง่ายดาย โดยไม่ต้องเจอกับพนักงานคอยเซ้าซี้ แล้วยังประหยัดค่าเดินทางอีกต่างหาก ร้านที่ว่านี้คือ ร้านตัดแว่นตาออนไลน์ favoptic วิธีใช้บริการก็แสนง่าย เกือบทุกขั้นตอนทำได้จากบ้านด้วยอินเตอร์เน็ตนั่นล่ะ

เพียงคลิ๊กเข้าไปในเว็บไซต์ www.favoptic.fi และสมัครใช้บริการโดยกำหนดชื่อ log in หรือใช้เป็นอีเมล์แอ็ดเดรส และพาสเวิร์ดส่วนตัว จากนั้นก็คลิ๊กเลือกโครงและกรอบแว่นตาที่ชอบมาห้าคู่ ขั้นตอนนี้อาจใช้โปรแกรมช่วยเลือกโดยการอัพโหลดรูปถ่ายหน้าตรงของตัวเอง พร้อมระบุความกว้างระหว่างจุดโฟกัสของลูกตาทั้งสองข้าง แล้วคลิกแสดงผลรูปเสมือนสวมแว่นตานั้นถ่ายรูป จากประสบการณ์ตรงโปรแกรมนี้ช่วยได้มากเลย เพราะโครงแว่นมีให้เลือกเยอะมาก ทั้งแบบโครงโลหะ โครงพลาสติก หรือกระทั่งแบบไร้กรอบ มีหลายสี หลายลาย โครงบางสไตลก็สามารถออกแบบเองไม่ให้ซ้ำใครเลยก็มี ซึ่งบางคนแม้จะคุ้นเคยกับการสวมแว่นตามานาน ก็อาจมีอาการเหวอเลือกไม่ถูกขึ้นมาก็ได้ นอกจากนี้การที่ไม่สามารถหยิบสินค้ามาลองได้จริง จึงอาจทำให้ขาดความมั่นใจในการเลือกสินค้าที่เหมาะกับตัวเองได้ รูปเสมือนสวมใส่แว่นตานี้ช่วยตัดตัวเลือกที่ไม่เหมาะกับเราออกไป ให้เหลือเพียงห้าอับดับที่เราต้องการลองสวมจริงๆ ที่บอกว่าลองสวมจริงนี้หมายความว่า เมื่อเราเลือกแว่นตาที่ต้องการมาห้าคู่แล้ว ทางร้านก็จะส่งโครงแว่นตาตัวอย่างทั้งห้าคู่(ไม่ใช่เลนส์จริง)มาตามที่อยู่ของเรา

ขั้นตอนต่อไปที่ต้องทำคือ ลองสวมจริงและตัดสินใจว่าคู่ไหนเหมาะกับเรามากที่สุด หรือคู่ไหนถูกใจที่สุด หากถูกใจก็จัดแจงกาเครื่องหมายเลือกผู้แทน อ่อ ไม่ช่ายยยย ที่ถูกต้องคือใช้ปากกาเมจิกที่ส่งมาพร้อมแว่นตาตัวอย่าง ทำเครื่องหมายบนแว่นตาเพื่อกำหนดจุดกึ่งกลางของตาดำทั้งสองข้าง แล้วใส่แว่นตาที่เลือกคู่นั้นกลับเข้าไปในซอง แพ็คใส่กล่องเดิมให้ครบทุกคู่ พร้อมแนบก๊อปปี้ใบบันทึกค่าวัดระดับสายตา (silmälasiresepti)ของเราส่งให้เค้าประกอบเลนส์สายตาให้เราใส่เข้าไปด้วย นำกล่องที่แปะสติ๊กเกอร์ติดที่อยู่ที่แนบมาให้ส่งกลับไปยังบริษัททางไปรษณีย์(ค่าส่งฟรีเนื่องจากเป็นพัสดุที่ชำระอาการไปรษณีย์แล้ว) แต่หากยังไม่พอใจแว่นตาตัวอย่างคู่ใดเลยก็สามารถส่งกลับไปด้วยวิธีเดียวกันแต่ไม่ต้องกาเครื่องหมายใดๆบนแว่นตา แล้วกลับไปเลือกแว่นตาแบบอื่นจากเว็บไซต์มาลองอีก จนกว่าจะพบคู่ที่ถูกใจ เป็นอันเสร็จขั้นตอนการลองแว่นตา จากนั้นทำการ log in เข้าไปยังเว็บไซต์เดิม แล้วเลือกแว่นตาคู่ที่เราเลือกใส่ในตระกร้า เช็คเอาท์ เพื่อทำการซื้อแว่นตาออนไลน์ อย่าลืมบันทึกหมายเหตุให้ทางร้านทราบว่า เราได้แนบใบบันทึกค่าวัดระดับสายตาของเราไปพร้อมกับกล่องที่ได้นำส่งกลับไปที่ร้านแล้ว
หลังจากนั้นประมาณสองอาทิตย์ถัดมา ปิ๊งป่อง! และแล้วแว่นตาเม้ดทูออเดอร์ของเราก็เดินทางมาถึงบ้าน พร้อมกล่องใส่แว่นตาทำจากโลหะ เครื่องมือไขปรับน๊อตขนาดจิ๋ว และที่ขาดไม่ได้คือบิลค่าแว่นตาประกอบเลนส์จำนวน 45 ยูโร


ข้อดีของแว่นตาคู่ใหม่คือช่วยทำให้ทัศนียภาพของเราแจ่มขึ้นมาทันตา เห็นโลกชัดขึ้นมาในทันใด แต่ข้อเสียที่ตามมาหลังจากที่เคยหลอกตัวเองว่าหน้าใส ตอนนี้กลับมองเห็นสิวผด ริ้วรอยระดับปานกลางรวมทั้งรูขุมขนซูมอินชัดขึ้นล้านเท่าจนไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง(จริงง่ะ?) นอกจากนี้ยังมีอาการปวดหัว ซึ่งเป็นอาการข้างเคียงทั่วไปเนื่องจากสายตายังไม่ชินกับเลนส์สายตาคู่ใหม่ คงต้องใช้เวลาปรับสายตาอีกพักหนึ่ง สรุปแล้วค่าใช้จ่ายทั้งหมดคือ 73 ยูโรได้แก่ค่าวัดสายตา 28 ยูโรและค่าแว่นตาประกอบเลนส์ 45 ยูโร ไม่แพงอย่างที่เคยคิดไว้แถมสะดวกมากมาย และที่สำคัญมองเห็นชัดร้อยเปอร์เซ็นต์ เสมือนได้ตาคู่ใหม่มาใส่แทนคู่เก่ายังไงอย่างงั้นเลยเชียว

เพื่อนๆที่อยู่ในฟินแลนด์คนไหนมีความจำเป็นต้องตัดแว่นก็ลองหาข้อมูลดูจากหลายๆร้าน หรือหากต้องการคำแนะนำก็สามารถติดต่อเราได้ ยินดีช่วยเหลือจ้าาาา


วันศุกร์, พฤศจิกายน 15, 2556

ตัดแว่นสายตา ไม่ยาก และไม่แพงอย่างที่คิด (ตอนที่ 1)

วันนี้อยากบอกเล่าเก้าสิบเกี่ยวกับประสบการณ์ตัดแว่นสายตาในต่างแดน ก่อนอื่นขอเท้าความเป็นมาก่อน เรื่องของเรื่องคือ ตัวเองมีปัญหาสายตาสั้น มองไกลไม่ชัดมาเป็นเวลานานมากแล้ว จำได้ว่าเริ่มสวมแว่นตาตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย สวมแว่นตลอดเวลาจนได้ฉายาที่เพื่อนๆเรียกว่า อาราเร่ หรือ เรียกป้าบ้างล่ะ แต่ช่วงปีหลังๆมานี้บางครั้งหากไม่จำเป็นก็จะไม่สวมแว่นตาเนื่องจากรู้สึกเกะกะ จะสวมเฉพาะตอนที่นั่งเรียน/ประชุม/อบรม/สัมมนา ขับรถ ดูทีวีหรือภาพยนตร์ในโรงหนัง หรือต้องมองฉากที่อยู่ไกลๆเป็นต้น นี่จึงเป็นสาเหตุให้ลืมพกแว่นตาติดตัวอยู่หลายครั้ง และครั้งล่าสุดดันลืมแพ็คใส่กระเป๋าเมื่อต้องย้ายมาอยู่ต่างแดน ซะงั้น!

ในช่วงแรกจึงพยายามไม่หาเหตุจำเป็นที่จะต้องสวมแว่นตา คือไม่ต้องขับรถ(ยังไม่มีใบอนุญาตขับขี่ของที่นี่) ไม่ดูภาพยนตร์ในโรงหนัง(ค่าตั๋วแพง) และหามุมนั่งใกล้จอทีวีให้มากที่สุด แต่จนแล้วจนเล่าก็จำเป็นต้องหาแว่นตามาสวมเมื่อต้องเข้าชั้นเรียนภาษา และดันโชคร้ายโดนจัดให้นั่งห่างกระดานซะสุดแถวววว ทำไงดีล่ะทีนี้ รู้มา(จากแม่สามี)ว่าค่าตัดแว่น ค่าเลนส์และโครงแว่นตาน่ะ ราคาหลายร้อยยูโรเชียวนะ เราเองไม่อยากใช้จ่ายเงินมากขนาดนั้นก็เลยลองหาทางเลือกอื่นดูก่อน วันหนึ่งเดินเลือกซื้อของในร้านขายของมือสอง เจอแว่นสายตาเก่าอยู่คู่หนึ่งราคาไม่ถึงสามยูโร ลองใส่ดูแม้จะไม่ใช่ระดับสายตาที่เหมาะกับเราแต่ก็มองเห็นชัดขึ้นมาก จึงไม่รอช้า สอยมาทันที ใช้อยู่พักใหญ่แต่เพราะโครงแว่นอ่อนแอ จึงหักง่าย ป๊อก! เป็นอันจบสิ้นกัน ขอไว้อาลัยแด่แว่นตามือสองคู่แรกในชีวิตของเรา เฮ้อ...

ช่วงระหว่างที่กำลังตระเวนหาแว่นตา(มือสอง)คู่ต่อไปนั้น เป็นช่วงที่ลำบากที่สุดถึงขนาดต้องขอยืมแว่นตาของพี่สาวใจดีที่นั่งเรียนติดกันมาสวมเพื่อมองดูกระดาน เปลี่ยนกันสวมทุกสิบนาทีเลย มึนหัวอยู่ทุกวัน จนมาเจอกับแว่นตาคู่ใหม่จากร้านเดิม และราคาพอๆกับคู่เก่าแต่มองเห็นชัดกว่าเดิมอีกหนึ่งเท่า จากนั้นมาจึงใช้แบบทะนุถนอมนานข้ามปี จนเรียนจบคลาส แต่ก็นะ เพราะยังไม่ใช่แว่นตาที่ทำมาเพื่อสายตาของเรา การมองเห็นจึงไม่ชัดถึงหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์และที่สำคัญเวลาที่ไม่สวม เริ่มสังเกตว่าระดับการมองเห็นด้วยตาเปล่าแย่กว่าสองปีที่แล้วซะอีก ในที่สุดหลังจากพลัดพลากจากแว่นตาเม็ดอินไทแลนด์ของเรามาเป็นเวลาสองปี ตอนนี้เรามีงานทำ มีรายได้ประจำ จึงสมควรแก่เวลาที่จะวัดสายตาอีกครั้งและตัดแว่นใหม่เสียที และที่จะเล่าต่อไปนี้คือประสบกาณ์ตัดแว่นสายตาในต่างแดน ที่อันที่จริงไม่ยาก และไม่แพงอย่างที่คิด

ในประเทศฟินแลนด์ "จักษุแพทย์" หรือ silmälääkäri มีหน้าที่รักษาโรคทางตาเท่านั้น ดังนั้นหน้าที่"วัดระดับการมองเห็น" (näöntarkastus) {ขอเรียนสั้นๆว่าวัดสายตา}จึงเป็นของ"ช่างวัดสายตา" หรือ optikko โดยทั่วไปสามารถติดต่อเพื่อวัดสายตาได้ตามร้านขายแว่นตาทั่วไป เช่น Silmäasema, Specsavers, Fenno Optiikka, Instrumentarium เป็นต้น แต่ละร้านก็จะระบุค่าบริการต่างกันไป หากมีอัตราแข่งขันสูงก็อาจมีส่วนลดตามโปรโมชั่น ค่าตรวจวัดสายตาและค่าตัดแว่นจะแยกกัน และหากมีใบส่งตัวจากบุคลากรทางการแพทย์ เช่นหมอ หรือพยาบาล อาทิเช่นผู้มารับการตรวจเป็นผู้เยาว์ ก็อาจงดเว้นไม่ต้องชำระค่าตรวจสายตาเลยก็ได้ ในกรณีของเรา อายุเกินผู้เยาว์มานานโข สามีขี้ตืดจอมวางแผนจึงหาข้อมูลล่วงหน้าจากอินเตอร์เน็ต พบว่าช่วงนั้น silmäasema เสนอโปรโมชั่นตรวจวัดสายตาราคาถูกกว่าร้านอื่น ฮีจัดแจงโทร.นัดวันรับการวัดสายตาให้เราล่วงหน้า ในวันตรวจเช็คสายตา เครื่องวัดสายตาเครื่องแรกมีหน้าตาเหมือนกับที่เห็นทั่วไป คือมีที่รองคาง มีรูให้ส่องในกล้อง แล้วจะมองเห็นฉากเรืองแสงที่เคลื่อนปรับระยะเดินหน้า ถอยหลังจนฉากที่เราเห็นเบลอๆเปลี่ยนเป็นชัดขึ้น อะไรประมาณนี้ อึดใจหนึ่งก็มีกระดาษปริ้นออกมาเพื่อบอกค่าสายตา
เครื่องวัดค่าสายตาในขั้นตอนแรกหน้าตาประมาณนี้
แต่ยังไม่จบตรงนี้เพราะขั้นตอนต่อไปย้ายจากเครื่องแรกไปยังห้องที่มีอุปกรณ์ครบครัน เพื่อตรวจอย่างละเอียดและใช้เวลาเกือบชั่วโมง ไม่สามารถอธิบายได้ครบทุกขั้นตอน จึงขอแสดงจากภาพดังต่อไปนี้
Lukutaulu



ในที่สุดการตรวจวัดค่าสายตาก็จบสิ้นลง โดยที่ชำะค่าตรวจวัดไป 28 ยูโรพร้อมกับได้ใบบันทึกค่าวัดระดับสายตา (silmälasiresepti) เพื่อนำไปสั่งตัดเลนส์ประกอบแว่นสายตาต่อไป ณ จุดนี้ทางร้านก็พยายามแนะนำให้ตัดแว่นที่ร้านเลย แต่ก็ไม่ได้คะยั้นคะยอมาก เพราะเค้ารู้ว่าจะทำหรือไม่นั้นเป็นสิทธิ์ของลูกค้า

ยิ่งเขียนยิ่งยาว ดังนั้นขอเล่าต่อในบทถัดไปก็แล้วกัน เชิญอ่านตอนต่อไปได้เลยฮ้าาาาาา


วันเสาร์, พฤศจิกายน 02, 2556

♫ Pump Pump : มายักย้ายส่ายสะโพกกันเร้ววว

เปลี่ยนแนวมาฟังเพลงเก่ากันดีกว่า คนที่แนะนำเพลงนี้ก็คืออีตาสามีที่ชอบสรรหาเพลงสนุกๆมาหยอกล้อภรรยานั่นเอง เพลงนี้นาย Fredi กับผองเพื่อนซึ่งเป็นตัวแทนจากประเทศฟินแลนด์นำมาร้องบนเวที การประกวดเพลงยูโรวิชชั่น (Eurovision Song Contest) เมื่อปี ค.ศ. 1976 นู่นแน่ะ ฟังแล้วคิดว่าเพลงน่ารักดีก็เลยเอามาหัดร้องเฉพาะท่อนฮุ้คกับลูกชาย ปรากฎว่าติดปากติดหูจนกระทั่งลูกนอนละเมอร้องเพลงนี้ไปด้วย มันน่ารักตรงที่เวลาร้องไปด้วยก็ยักย้ายส่ายเอวและก็เอาสะโพกมาชนกันตรงท่อน "pump pump" นี่แหละ แต่แปลกนะที่หน้านาย Fredi คนร้องเหมือนไม่มีอารมณ์ร่วมไปกับเพลงหรือจังหวะดนตรีเล้ย ทำหน้าตายตลอดทั้งเพลง เป็นอะไรที่ขัดตาเอามั่กมาก 

พูดถึงรายการประกวดเพลงยูโรวิชชั่น ตั้งแต่มีการจัดประกวดออกโทรทัศน์มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1956 ตัวแทนจากประเทศฟินแลนด์เคยประกวดชนะอยู่ครั้งหนึ่ง ในปี ค.ศ. 2006 โดยวงดนตรีแนวฮาร์ดร็อคชื่อ Lordi ด้วยเพลง "Hard Rock Hallelujah" 

ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยชนะอีกเลย แต่ก็ยังไม่หมดหวังนะ เพราะนักร้องรุ่นใหม่ที่มากความสามารถก็มีอยู่หลายคน และวงการเพลงของฟินแลนด์สมัยนี้ก็พัฒนาให้มีความหลากหลายมากขึ้น

*** เคยนั่งดูรายการ The Voice of Finland รอบคัดเลือกทางโทรทัศน์ มีผู้เข้าร่วมแข่งขันมากมายที่ร้องเพลงได้เพราะจับใจ ชึ่งหลายคนเป็นคนธรรมดาไม่ได้มีแบ็คกราวน์ด้านดนตรีเลย ร้องเพลงเป็นงานอดิเรก(ว่างั้น) ที่มาประกวดก็เพราะรักการร้องเพลงและต้องการแสดงความสามารถออกสื่อ เราคนหนึ่งที่ชอบร้องเพลง ร้องเป็นงานอดิเรก สุข เศร้า เหงา ก็ใช้เพลงเป็นสื่อระบายความในใจ นานๆทีก็ร้องเล่นๆบนเวทีเล็กๆกับเพื่อนๆได้ แต่ไม่กล้าแสดงออกบนเวทีแข่งขันเพราะคิดว่าความสามารถเรายังไม่ดีพอ  แต่อนาคตไม่มีใครรู้...สักวันหนึ่งเราอาจหาญกล้าลงประกวดร้องเพลงระดับประเทศ แล้วมีชื่อเสียงขึ้นมาก็ได้  แต่ยังไงก็ตาม วันนี้ขอร้องเพลงสนุกๆให้ตัวเองฟังพร้อมยักย้ายส่ายสะโพกนิดๆไปก่อน
...Pylly vasten pyllyä pump-pump... ^____^




Pump-pump

Pump-pump

Kauniita naisia aiemmin katselin minäkinI too used to watch the beautiful women
Sellainen hurmuripoikako ollut oot sinäkin?Have you too been that kind of a charmer boy?
Menneet on menneitä haittaa ei, eiThe past is past, it doesn't bother, no, no
Roihuva rakkaus kaiken sellaisen mielestä veiThe flaming love took all that from my mind
Pylly vasten pyllyä pump-pumpPut your bottom next to mine, pump-pump
Siinä sitä jotakin on... ai ai ai...There's that something in it... ay ay ay...
Pylly vasten pyllyä pump-pumpPut your bottom next to mine, pump-pump
Kuumat väreet aikaan se sai niin se saiIt gave us warm vibrations, yes it did
Leikkimieli arjen vie harmaanWhen you're playful you don't mind the gray everyday life
Tahdot varmaan tanssia näinI'm sure you want to dance like this
Pylly vasten pyllyä pump-pumpPut your bottom next to mine, pump-pump
Siinä sitä jotakin on... ai ai ai...There's that something in it... ay ay ay...
Mulle sä sinkosit sieluuni sykkivän kipinänYou flung to my soul a beating sparkle
Kättesi kosketus synnytti tänne näin kipinänThe touch of your hands brought a sparkle here inside
Leikkiä tahdomme kaksin näin, näinWe two want to play by ourselves like this, this
Missä ja milloin me ollaan ihan vain selvinkin päinWherever and whenever we are and when we're sober too
Pylly vasten pyllyä pump-pumpPut your bottom next to mine, pump-pump
Siinä sitä jotakin on... ai ai ai...There's that something in it... ay ay ay...
Pylly vasten pyllyä pump-pumpPut your bottom next to mine, pump-pump
Kuumat väreet aikaan se sai niin se saiIt gave us warm vibrations, yes it did
Leikkimieli arjen vie harmaanWhen you're playful you don't mind the gray everyday life
Tahdot varmaan tanssia näinI'm sure you want to dance like this
Pylly vasten pyllyä pump-pumpPut your bottom next to mine, pump-pump
Siinä sitä jotakin on... ai ai ai...There's that something in it... ay ay ay...
Pylly vasten pyllyä pump-pumpPut your bottom next to mine, pump-pump
Siinä sitä jotakin on... ai ai ai...There's that something in it... ay ay ay...
Pylly vasten pyllyä pump-pumpPut your bottom next to mine, pump-pump
Kuumat väreet aikaan se sai niin se saiIt gave us warm vibrations, yes it did
Pylly vasten pyllyä pump-pumpPut your bottom next to mine, pump-pump
Siinä sitä jotakin on... ai ai ai...There's that something in it... ay ay ay...