ตั้งแต่ย้ายมาตั้งรกรากในฟินแลนด์สิ่งหนึ่งที่เป็นความเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดของลูกชาย คือ เค้ารับผิดชอบดูแลตัวเองได้ค่อนข้างดีทีเดียว ตัวอย่างเช่น
1.ตื่นนอนเองทุกวันโดยใช้นาฬิกาปลุก
แปรงฟันและเทอาหารเช้าให้ตัวเองทาน
2.ไทเลอร์เดินไปและกลับโรงเรียนได้เองโดยมีเวลากำกับด้วยอย่างเช่น
ออกจากบ้าน เจ็ดโมงครึ่งและกลับถึงบ้านสี่โมงครึ่ง และโดยปกติใช้เวลาเดินทางไป-กลับโรงเรียนไม่เกินยี่สิบนาที และระหว่างทางต้องเดินข้ามถนนบนทางม้าลายด้วยจึงต้องรอสัญญาณไฟข้ามทุกครั้งแต่ลูกก็ไม่เคยเจอปัญหาเรื่องการเดินทาง นอกจากบางวันจะไปเรียนสายเนื่องจากออกจากบ้านช้า
หรือแวะเล่นหิมะบนทางเท้าก็ตาม
(ซึ่งพ่อกับแม่ก็ต้องอธิบายเหตุผลว่าทำอย่างนี้สกปรกและเป็นอันตราย
และห้ามไม่ให้ทำอีก อีกอย่างหนึ่งคือการไปโรงเรียนสาย
ถือว่าไม่เคารพคุณครูและเพื่อนๆ และในประเทศฟินแลนด์ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดี เมื่อทุกคนมาพร้อมแต่เหลือเราคนเดียวก็จะไม่มีใครรอเราอาจถูกทิ้งได้หากเป็นวันเดินทางไป ทัศนศึกษาและกำหนดเดินทางตรงเวลาแต่เรากลับไปสาย
เป็นต้น)
3.เมื่อจะออกไปข้างนอกไทเลอร์แต่งตัวและรับผิดชอบเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของตัวเอง
ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ของเด็กที่นี่เลย โดยเฉพาะเวลาที่อุณหภูมิติดลบ
เพราะอุปกรณ์เยอะมาก ตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างน้อยเด็กทุกคนต้องใส่ กางเกงตัวในขายาว
ถุงเท้าอุ่น (ไทเลอร์ใส่ถุงเท้าสองชั้น) เสื้อตัวในและกางเกงขายาว เสื้อกันหนาว กางเกงและเสื้อกันลมและหิมะ รองเท้าบู้ท ถุงมือกันลมและหิมะ และหมวกอุ่นปิดหู
แต่งตัวแต่ละครั้งจึงใช้เวลาเยอะ แต่พอได้ฝึกทุกวันก็ใช้เวลาน้อยลง แล้วพอเข้าไปในตึกก็ต้องถอดชุดเสื้อกางเกงกันลม
ถุงมือ หมวกและรองเท้าก่อนเข้าห้องเรียน
เด็กๆทุกคนก็ต้องดูแลรับผิดชอบทรัพย์สินของตัวเอง เก็บเข้าที่เองจะได้ไม่ปนกับของเพื่อน
เป็นต้น
4.ห้องพักของพวกเราอยู่ในตึกเจ็ดชั้น
พวกเราพักอยู่ชั้นสาม แต่ประตูหน้าตึกต้องใช้โค้ดหรือกุญแจไขเข้ามา เรายังไม่ใว้ใจให้ลูกถือกุญแจจึงบอกโค้ดประตูหน้าให้ลูกกดเปิดเข้ามา
ขึ้นลิฟท์มาชั้นสาม แล้วมากดกริ่งหน้าห้องเมื่อถึงบ้าน ลูกก็ไม่เคยมีปัญหาเข้าในตึกไม่ได้
แล้วยังขึ้น-ลงลิฟท์ได้เองด้วย
5.ตักอาหารและเก็บจานหลังทานข้าวทั้งที่บ้านและโรงเรียน
ต้องทานให้หมดจานทุกครั้ง และถ้ามีสลัดผักก็ต้องทานด้วย
ตัวอย่างพวกนี้อาจดูไม่มากและดูปกติสำหรับเด็กฟินน์ทั่วไป แต่เราก็คิดว่ามันไม่ธรรมดาสำหรับเด็กไทยที่เกิดและเติบโตในเมืองไทยอย่างไทเลอร์และ ตัวแม่เองทำให้ได้คิดว่านี่เองคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ประเทศเราต่างจากประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างฟินแลนด์
ประสบการณ์ที่ได้รับเมื่อมาอยู่ต่างแดนนอกจากจะได้เรียนรู้ความแตกต่างระหว่างวิธีปฏิบัติต่อเด็กของประเทศที่พัฒนาแล้ว
ยังทำให้ได้มองเห็นประเทศเราในมุมที่ต่างไป ที่นี่เด็กที่จะเติบโตขึ้นมาเป็นกำลังและอนาคตของชาติได้รับการปฏิบัติ,
การปกป้อง-ดูแล-รักษาทั้งทางกายและทางจิตใจ, ได้รับสิทธิการคุ้มครองทางกฎหมาย และสิทธิเข้ารับบริการสาธารณูปโภคของรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เช่น การศึกษา การตรวจรักษาสุขภาพกายและฟัน
การเข้าใช้บริการสระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น หรือห้องสมุด ที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นเด็กต่างชาติหรือเด็กฟินน์จะได้รับสิทธิที่ว่ามาอย่างเท่าเทียม และทั่วถึงกัน ขอย้ำว่าเท่าเทียมกันโดยไม่เกี่ยงว่าครอบครัวจะมีฐานะดีหรือไม่ หรือมีถิ่นฐานอยู่เขตไหนของประเทศ นี่คือความแตกต่างที่เห็นเด่นชัดจากประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างประเทศไทย นอกจากนี้การอบรมสั่งสอนเด็กตั้งแต่เล็ก ก็เป็นก้าวสำคัญที่ทำให้เด็กเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ
เช่น รู้ความต้องการของตนเอง มีความรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา
รู้จักเหตุผลและตรรกะเบื้องต้น เข้าใจความเท่าเทียมกัน รู้จักดูแลทรัพย์สินส่วนตัว
และช่วยเหลือตัวเองได้ เป็นต้น