วันเสาร์, เมษายน 14, 2555

เด็กชายไทเลอร์เตรียมขึ้นชั้นป.หนึ่ง ณ ฟินแลนด์

เด็กชายไทเลอร์ไปโรงเรียนอนุบาล(Päiväkoti)ทุกวัน และก็เริ่มพูดภาษาฟินนิชกับทุกคนในบ้านแล้ว อ่านออกเสียงภาษาฟินนิชได้แล้วถึงแม้จะยังไม่รู้ความหมาย ครูที่โรงเรียนเค้าก็ทึ่งเพราะเด็กฟินน์ที่อายุเท่ากันกำลังเรียน A-Z อยู่เลย เดือนที่แล้วพ่อกับแม่ได้ร่วมประชุมวางแผนอนาคตให้ไทเลอร์ที่โรงเรียน โดยมีเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องการศึกษาของเด็กจากเมืองที่พวกเราอยู่มาร่วมประชุมแถมจัดล่ามคนไทยมาช่วยอธิบายให้แม่เข้าใจด้วย (อันนี้ประทับใจมากเลย เพราะพี่ที่เป็นล่ามเค้าเก่งมาก อธิบายให้เราฟังทุกคำพูดเลย)

เริ่มจากครูประจำชั้นแจงความประพฤติของไทเลอร์ที่โรงเรียนทั้งด้านดีและไม่ดี ความก้าวหน้าเรื่องการปรับตัวของไทเลอร์ และก็ทักษะต่างๆของเค้า ปรากฏว่าลูกชายมีพรสวรรค์ในด้านศิลปะและกีฬา หัวไวมาก เพราะสอนแป๊บเดียวเค้าก็ทำได้เลย นอกจากนี้เค้ายังสามารถบวกลบเลข นับเลข บอกเวลา และอ่านออกเสียงได้แล้ว สรุปว่าครูลงความเห็นว่าเค้ามีความรู้ความสามารถที่จะเข้าชั้นเรียนประถม 1 (Grade1)ได้เหมือนเด็กฟินน์ปกติ แต่เนื่องจากยังไม่มีทักษะการสื่อสารภาษาฟินนิชมากพอที่จะเข้าชั้นเรียนปกติ ดังนั้นเจ้าหน้าที่การศึกษาฯจึงจัดชั้นเรียนพิเศษสำหรับเด็กต่างชาติแบบไทเลอร์ที่ต้องเน้นเรียนภาษาควบคู่กับวิชาอื่นๆ ถ้ารู้ภาษามากพอก็จะได้ย้ายไปเรียนร่วมกับเด็กฟินน์ทั่วไป เค้าจะเริ่มไปโรงเรียนประถมเดือนกันยายนปีนี้แหละ แถมขอรถรับ-ส่งโรงเรียนได้ด้วยเพราะลูกยังไม่คุ้นเคยกับสถานที่และกลัวจะได้รับอันตรายถ้าเดินไปโรงเรียนเอง พอได้ยินอย่างนี้แล้วคงเดาออกนะว่าคนเป็นแม่ที่เคยกังวลว่าลูกจะเรียนช้ากว่าเด็กที่นี่เป็นปีๆจะดีใจมากขนาดไหน ^^

ก่อนจบการประชุมเจ้าหน้าที่ศึกษาฯแนะนำว่า ในกรณีเด็กที่เกิดมาในครอบครัวที่ใช้สองภาษาแบบไทเลอร์นี้ พ่อและแม่ควรแบ่งหน้าที่ให้ชัดเจนในการสื่อสารกับลูก เช่น พ่อควรพูดกับไทเลอร์เป็นภาษาฟินนิชเท่านั้น และแม่เองก็ควรพูดกับลูกเป็นภาษาไทยเท่านั้น เพราะจะช่วยให้ไทเลอร์ได้พัฒนาความสามารถทั้งสองภาษาได้โดยไม่สับสน ซึ่งเราเองก็เห็นด้วยนะ เพราะทั้งสองภาษาสำคัญกับชีวิตเค้ามากพอๆกัน ส่วนภาษาอังกฤษนั้นเดี๋ยวครูก็สอนให้ที่โรงเรียน ยังไม่จำเป็นต้องใช้ที่บ้าน ตอนปิดเทอมหน้าร้อนเราวางแผนไว้แล้วว่าจะเริ่มสอนเขียนและสะกดภาษาไทยให้ลูก ค่อยเป็นค่อยไป ลูกจะได้ไม่ลืมภาษาไทย

เมื่อพูดถึงความเป็นไทย เวลาที่จะรับของจากผู้ใหญ่ลูกก็ยังไหว้ขอบคุณอยู่ถึงแม้จะเปลี่ยนคำว่า "ขอบคุณครับ" เป็น "กีโตส" (แปลว่าขอบคุณ/ภาษาฟินนิช) ซึ่งคนฟินน์ที่นี่เห็นแล้วชอบมากเลย บอกว่าไทเลอร์เป็นเด็กน่ารัก อืม ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนมารยาทไทยก็ยังแปลกตาและก็น่าประทับใจสำหรับชาวต่างชาตินะ

อากาศที่นี่ดีขึ้นมากแล้ว ฤดูหนาวที่โหดร้ายกำลังจะจากไป และฤดูใบไม้ผลิกำลังมาเยือน อุณหภูมิอุ่นขึ้นทุกวันและก็แดดออกด้วย ส่วนหิมะที่ยังละลายไม่หมดก็ยังเหลือให้เห็นข้างถนนหรือบนทางเท้าแต่ลดลงทุกวัน ช่วงนี้เป็นช่วงที่แฟชั่น"เกือกโอ๊ค"(=รองเท้าบู้ททำจากยาง/ ภาษาถิ่นจ.เชียงใหม่)มาแรงเพราะถนนเปียกแฉะจากหิมะที่กำลังละลาย เราเองก็กำลังหาซื้อแบบมือสองอยู่ เพราะอาจโชคดีเจอยี่ห้อ Burberry สักคู่ ที่เห็นนายกฯใส่ปีที่แล้ว (อันที่จริงหน้าตารองเท้าก็งั้นๆแหละ ไม่รู้มันแพงตรงไหน ใส่แล้วเดินบนน้ำได้ว่างั้น?) หึหึหึ

1 ความคิดเห็น:

  1. ฮา มะรีมากนะคะ 555+ สอยเบอร์เบอรี่ซักคู่มาใส่เทียบชีดูซักตั้งก็เวิร์คดีเน่อ

    อ่านแล้วดีใจอ่าที่ไทเลอร์ปรับตัวง่าย ตั้งใจเรียนกรี๊ดๆๆ มีลูกสาวจะเอาไปดองกะไทเลอร์ดีกั่ว ว่ะฮ่าฮ่า (ไปเร่ยขนาด)

    ปล ที่ฟินแลนด์นี่สวัสดิการนี่มันแหล่มแท้ การดูแลก็เยี่ยมยอด เคยอ่านหนังสือเค้าบอกว่าคนแถบสแกนดิเนเวียนี่คล้ายๆคนบ้านเรา มีน้ำใจอัธยาศัยดี รักบ้านรักครอบครัว โอ้ะ แหล่มมว๊ากเลยมะรี!!

    ตอบลบ