หายไปนานเลย ตั้งแต่เริ่มเปิดเรียนก็ไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาอัพเดทบล็อกนี้ ความจริงมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นและประสบการณ์ใหม่ที่น่าสนใจ แต่เพราะการบ้านเยอะและต้องขยันทบทวนบทเรียน จึงไม่มีเวลาเข้ามาเขียนเล่าความคืบหน้าต่างๆ แต่วันนี้พอมีเวลาว่างก็อยากเขียนเล่าซะหน่อย
เริ่มจากการเดินทางไปโรงเรียน ก่อนอื่นขอเปรยก่อนว่าโรงเรียนของเราชื่อ Edupoli ตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟเล็กๆชื่อ Savio ในเมือง Kerava ห่างจากบ้านไป ประมาณ 17 กม. เรียนจันทร์ถึงศุกร์ ตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึงบ่ายสองโมง รถไฟที่เดินทางผ่านระหว่างเมือง Järvenpää และ Kerava มีอยู่สองสายคือ สาย H และสาย R แต่ทั้งสองสายไม่ผ่านสถานี Savio จึงต้องเปลี่ยนรถไฟที่สถานี Kerava เป็นสาย N หรือ K พอจะเขียนแผนภูมิให้เห็นภาพคร่าวๆได้ดังนี้
Saunakallio Järvenpää Kerava Savio
H --------------------I--------------I-------------------------I-----------------------------------
R -----------------------------------I-------------------------I-----------------------------------
00000000000000000000000000000000I---------------I-------------- K/N
ก่อนเริ่มเรียนก็ได้วางแผนโดยเช็คตารางเวลารถไฟแล้ว โดยรถไฟสาย H จะมาเทียบชานชาลาที่สถานีใกล้บ้านชื่อ Saunakallio ทุกๆชั่วโมง ณ เวลาจุดสามแปดนาที ตัวอย่างเช่น 6.38 น. 7.38 น. 8.38 น. ... เป็นต้น ดังนั้น หากจะเข้าเรียนให้ทัน รถไฟเที่ยวสุดท้ายที่ต้องขึ้นคือ เวลา 8.38 น. จึงวางแผนในตอนเช้าเป็นลำดับว่า ทั้งแม่และลูกตื่นเวลาเจ็ดโมงเช้า ทานมื้อเช้า และเตรียมตัวเดินออกจากบ้านไปส่งลูกที่รร.อนุบาลที่ห่างจากบ้านไป 10-15 นาที จากนั้นจึงมีเวลาเดินไปขึ้นรถไฟเที่ยว 8.38 น. เพื่อให้ถึงโรงเรียน 8.58 น. ปรากฎว่าวันแรกที่ลองทำตามแผน ทำให้เราเข้าเรียนสายสิบนาที(ซะงั้น) เพราะรถไฟดันมาสาย
[ ปกติรถไฟในฟินแลนด์จะมาตรงเวลาทุกครั้ง แต่หากสภาพภูมิอากาศไม่อำนวย เช่นในฤดูหนาวบ่อยครั้งที่หิมะตกหนาเกาะรางรถไฟ หรืออุณหภูมิต่ำจนทำให้เครื่องยนต์ขัดข้อง ก็ทำให้เกิดความล่าช้าหรือบางเที่ยวต้องหยุดให้บริการชั่วคราว (canceled ) ก็มี ]
พอวันแรกเข้าเรียนสายก็เป็นเรื่องใหญ่เลยสำหรับเรา เพราะอาจารย์ชาวฟินน์เน้นเรื่องความตรงต่อเวลามาก เราจึงต้องเปลี่ยนแผน ถ้าเลื่อนเวลาขึ้นรถไฟเที่ยว 7.38 น. ก็จะมาถึงโรงเรียนเวลา 7.58 น. (มาถึงก่อนเวลาเข้าเรียนหนึ่งชั่วโมง) ลูกชายก็ต้องพลอยตื่นเช้าและไปถึงโรงเรียนเจ็ดโมงเช้า คิดว่าคงไม่ไหว งั้นคงต้องเปลี่ยนเป็นขึ้นรถไฟสาย R แต่ปัญหาอยู่ที่ มันไม่จอดรับผู้โดยสารที่สถานีเล็กๆอย่าง Saunakallio เราจึงต้องนั่งรถเมล์ไปขึ้นที่สถานีใหญ่ Järvenpää แทน โชคดีที่ป้ายรถเมล์อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนลูกชาย
ดังนั้นแผนการใหม่ของเราคือตื่นหกโมงครึ่งและเดินไปส่งลูกชายที่โรงเรียนประมาณ 7.30 น.(เพื่อที่ลูกชายจะได้ทันทานมื้อเช้าที่โรงเรียนตอนแปดโมงเช้า) แล้วเดินมารอขึ้นรถเมล์เที่ยว 7.50 น.ไปยังสถานีรถไฟใหญ่ เพื่อให้ทันรถไฟเที่ยว 8.14 น. จากนั้นไปลงสถานีเมือง Kerava และเปลี่ยนรถไฟอีกคันที่จะไปเมือง Savio จึงทำให้มาถึงก่อนเวลาเข้าเรียนสามสิบนาที แผนนี้ได้ผล เพราะไม่เคยมาสายอีกเลย ส่วนขากลับหลังเลิกเรียนเวลาบ่ายสองนั้นค่อนข้างสะดวกเพราะแค่นั่งรถไฟจาก Savio มา Kerava และเปลี่ยนไปนั่งรถไฟสาย H มาถึง Saunakallio เลย
ค่าใช้จ่ายในการเดินทางเคยเกริ่นในบทความก่อนหน้านี้แล้วว่าสำนักงานจัดหางานร่วมกับสำนักงานประกันสังคมจ่ายให้จำนวน 9 ยูโรต่อวันไม่หักภาษี ดังนั้นคนที่บ้านใกล้โรงเรียนจึงได้เปรียบเพราะไม่ต้องเสียค่าใช่จ่ายในการเดินทางมากมายเท่ากับคนบ้านไกลอย่างเรา (แถมประหยัดเวลากว่าเราด้วย) เพราะเราต้องจ่ายค่ารถเมล์ และรถไฟทั้งขาไปและกลับ แต่ก็เลือกซื้อตั๋วเดือนที่ถูกกว่าตั๋วเที่ยวเดียวและยังคุ้มค่ากว่าด้วยเพราะเดินทางบ่อย
การเดินทางในประเทศฟินแลนด์ค่อนข้างสะดวกและรวดเร็ว และยังตรงเวลาอีกด้วย การซื้อตั๋วก็แสนสะดวกเพราะนอกจากซื้อที่ช่องขายตั๋วตามสถานีรถไฟแล้ว ยังสามารถซื้อและชำระค่าตั๋วทางอินเตอร์เน็ตและนำ slip code ที่ได้มารับตั๋วที่ช่องขายตั๋ว หรือพริ้นท์เองที่ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ เราเองก็ซื้อตั๋วรถไฟรายเดือนแบบนี้ ระบบนี้เอื้อให้ประชาชนสามารถวางแผนการเดินทางล่วงหน้าและเลือกใช้บริการคมนาคมที่เหมาะสมกับความจำเป็น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น