เล่าคริสต์มาส บ้านลุงซานต้า
สดจากเยาวชน แหล่งที่มา: วันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7333 ข่าวสดรายวัน
ผ่านคริสต์มาสมาเพียง 2 วัน ยังอบอวลไปด้วยบรรยากาศความสุขที่แสนอบอุ่นและเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง
โยวลุปุ๊กกิ (Joulupukki) |
จัดงานฉลองมานานกว่า4พันปี
เชื่อกันว่าเมืองแลปแลนด์ ประเทศฟินแลนด์ เป็นบ้านเกิดของซานตาคลอส ชาวฟินแลนด์เรียกซานตาคลอสว่า "โยวลุปุ๊กกิ"
ฤดูหนาวในฟินแลนด์อากาศหนาวจับจิตจับใจ อุณหภูมิลดต่ำกว่าศูนย์องศาเซลเซียส
ชาว ฟินน์ฉลองเทศกาลแห่งฤดูหนาวมาตั้งแต่ 2,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช ภายหลังเมื่อศาสนาคริสต์เข้ามาเผยแพร่ในดินแดนนี้ก็มีการผสมผสานกับความ เชื่อท้องถิ่น จากเทศกาลฤดูหนาวกลายมาเป็นเทศกาลคริสต์มาส
บัตรอวยพรยอดฮิต
บัตร อวยพรของชาวฟินนิชมักเป็นภาพทิวทัศน์ของฟินแลนด์ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ภาพผู้คนกำลังไปเยี่ยมเยียนมิตรสหาย ไปโบสถ์ เพื่อร่วมกิจกรรมวันคริสต์มาส ภาพเด็กๆ สนุก สนานกับการเล่นเลื่อนหิมะ หรือไม่ก็เล่นสเกตในทะเลสาบที่จับเป็นลานน้ำแข็งขนาดใหญ่
อีกภาพที่คุ้นตาในบัตรอวยพรคือ เหล่าเอลฟ์กำลังเล่นสนุกสนานกับผองเพื่อนสัตว์ป่าทั้งหลาย
เสียงระฆังต้อนรับเทศกาล
ก่อนจะเริ่มกิจกรรมในเช้าวันคริสต์มาส นักบวชจะตีระฆังในวิหารเสียงดังกังวานเพื่อต้อนรับชาวฟินแลนด์ที่มาประกอบพิธีกรรมที่โบสถ์
คำ ว่า ระฆัง กระพรวน หรือกระดิ่ง (ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า Bells เหมือนกัน) มักปรากฏในเนื้อเพลงคริสต์มาส ที่คุ้นหูกันก็น่าจะเป็นเพลงจิงเกิลเบลล์ ซึ่งมีที่มาจากกระพรวนที่ติดบนบังเหียนม้าลากเลื่อน
นอกจากระฆังและ เครื่องประดับอื่นๆ ที่ใช้ตกแต่งต้นคริสต์มาสแล้ว ยังนิยมใช้ดอกพอยน์เซตเทีย หรือดอกคริสต์มาส ดอกว่านสี่ทิศ ดอกไฮยาซินท์ และดอกทิวลิป มาประดับตกแต่ง
เทวทูต สัญลักษณ์แห่งความชื่นชมยินดี
เทวทูต เป็นผู้นำข่าวดีมาแจ้งพระแม่มารีว่าพระองค์เป็นผู้ได้รับเลือกให้เป็นผู้ให้ กำเนิดพระเยซู และปรากฏตัวต่อหน้ากลุ่มคนเลี้ยงแกะสองครั้ง ครั้งแรกเพื่อประกาศว่าพระเยซูทรงประสูติแล้ว และแจ้งสถานที่ประสูติครั้งที่สองเพื่อขับร้องท่วงทำนองไพเราะเกี่ยว กับการประสูติของพระเยซู
เชื่อกันว่าเทวทูตนั้นมีปีก พำนักอากาศอยู่บนสรวงสวรรค์ แต่ก็มักลงมาอยู่ท่ามกลางผู้คนบนโลก
ต้นสนและดวงดาว
ใน สมัยโบราณ ชาวฟินน์ใช้ฟางเป็นของตกแต่งชิ้นสำคัญในการเฉลิมฉลองเทศกาลฤดูหนาว เพราะเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังในฤดูเพาะปลูกที่จะมาถึง ภายหลังเปลี่ยนมาใช้ต้นสนเนื่องจากใบสนมีสีเขียวสดตลอดปี สื่อถึงฤดูใบไม้ผลิสีเขียวชอุ่มที่กำลังจะมาถึงกับฤดูเก็บเกี่ยวที่ตามมา และต้นสนยังหาได้ทั่วไปในป่าของฟินแลนด์
หลังจากพระแม่มารีให้กำเนิด พระเยซูในรางหญ้า นักปราชญ์ทางตะวันออกทั้งสามมองเห็นดวงดาวดวงหนึ่งที่ไม่ธรรมดา เป็นสัญญาณบอกว่าจะมีผู้ยิ่งใหญ่กำเนิดขึ้น จึงเดินทางจากแดนไกลเพื่อติดตามดวงดาวนั้น บนยอดต้นสนจึงประดับด้วยดาว สื่อถึงดวงดาวที่นำทางนักปราชญ์ทั้งสามไปพบพระเยซู
ซานตาคลอสรู้ได้อย่างไรว่าต้องส่งของขวัญให้ใคร
ปัญหา นี้ขจัดไปได้โดยพวกเอลฟ์ ผู้ช่วยมือหนึ่งที่ทำหน้าที่รวบรวมรายการของขวัญที่เด็กๆ ทั่วโลกส่งมายังที่ทำการไปรษณีย์โรวานีมี ใกล้กับเมืองคอร์ฟาตุนตูรีที่หมู่บ้านซานตาคลอสตั้งอยู่
เอลฟ์เป็น ตัวละครในเทพนิยายโบราณของฟินแลนด์ มักใส่เสื้อผ้าสีแดงและเทากับหมวกสีแดง บางตำนานเชื่อว่าพวกเอลฟ์อาศัยอยู่ในหมู่บ้านคอร์ฟาตุนตูรี ซึ่งเป็นเทือกเขาสูงใหญ่ในเมืองแลปแลนด์ มีนิสัยร่าเริงและขยันขันแข็ง ไม่ค่อยปรากฏตัวให้เห็น เฉพาะเด็กๆ เท่านั้นที่มองเห็นเอลฟ์
สิ่ง ที่ทำให้เอลฟ์เบิกบานใจคือ การที่ผู้คนคิดถึงคุณงามความดีของเอลฟ์ที่ช่วยตระเตรียมเทศกาลคริสต์มาส ทั้งทำขนม ทำความสะอาด ตกแต่งสถานที่ และเขียนบัตรอวยพรให้ผู้คน
อาหารและเครื่องดื่มที่ขาดไม่ได้
บ้านขนมปังขิงที่เด็กๆชื่นชอบ |
ส่วนขนม ที่ขาดไม่ได้เลยคือคุกกี้ขนมปังขิง คุกกี้จะมีรูปร่างหน้าตาหลากหลาย ทั้งรูปเอลฟ์ ดาว ระฆัง ขนมดั้งเดิมอีกอย่างคือ บ้านขนมปังขิง เครื่องดื่มคือไวน์ หรือน้ำผลไม้ร้อนๆ ที่เรียกในภาษาฟินน์ว่า Gloggi เวลาเสิร์ฟมักใส่อัลมอนด์เคลือบสีเงินและลูกเกดลงไปด้วย
ไม่เพียงแต่คนที่ได้อิ่มอร่อย นก และสัตว์เลี้ยงต่างๆ ก็เช่นกัน ชาวฟินน์จะมัดธัญพืชแล้วแขวนไว้ตามลานบ้านให้บรรดานกน้อยมาจิกกิน
ส่วนนกเลี้ยงก็จะได้กินเมล็ดพืชที่ใส่ให้ไว้ในกรง